รีวิว Honda HR-V รถยนต์ครอสโอเวอร์โฉมใหม่ พร้อมราคาปี 2020

ภายในห้องโดยสาร

เมื่อเปิดประตูรถเข้าไปในห้องโดยสาร ก็ยังเน้นดีไซน์สปอร์ตสไตล์พรีเมียม โดดเด่นด้วยพื้นที่ห้องโดยสารสุดกว้างขวาง พร้อมดีไซน์คอนโซลกลางแบบ 2 ชั้น ผสานพื้นที่ใช้สอยที่ช่วยอำนวยความสะดวกให้คุณได้มากขึ้น ตกแต่งพื้นที่ด้านในด้วยสีแดงออกซ์บลัดตัดกับสีดำ ให้ความรู้สึกหรูหราน่านั่ง เสริมทัพด้วยอุปกรณ์สุดโดดเด่นอีกมากมาย อาทิ คอนโซลกลางแบบ 2 ชั้น, แป้นเหยียบคันเร่งและเบรกแบบสปอร์ต, มาตรวัดเรืองแสงปรับเปลี่ยนได้ 7 สี และหน้าจอแสดงข้อมูลการขับขี่

เครื่องยนต์

ในส่วนของเครื่องยนต์ มาพร้อมขุมพลัง 1.8 ลิตร i-VTEC 141 แรงม้า ส่วนระบบเกียร์เป็นแบบอัตโนมัติ CVT ที่ถูกพัฒนาภายใต้ Earth Dreams Technology ช่วยประหยัดน้ำมันยิ่งขึ้น ผสานอัตราเร่งอันยอดเยี่ยม ตอบสนองทุกการขับขี่ โดยยังมาพร้อมระบบ 7-Speed Paddle Shift ระบบควบคุมการเปลี่ยนเกียร์ที่พวงมาลัยแบบ 7 สปีด เสริมทัพด้วยความแข็งแกร่งของช่วงล่าง ที่ทำให้เข้าโค้งได้อย่างมั่นใจ พร้อมลุยทุกสภาพถนน

นอกจากนี้ Honda HR-V ยังเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมด้วยนวัตกรรม ECO Assist ช่วยประหยัดน้ำมัน และรองรับพลังงานทางเลือก E85 อีกทั้งยังมีระบบ ECO Coaching ตัวแสดงผลการขับขี่แบบประหยัดน้ำมัน ช่วยแนะนำให้ผู้ขับขี่ใช้เชื้อเพลิงได้อย่างคุ้มค่า โดยวัดจากการเหยียบเบรกและคันเร่ง ซึ่งจะแสดงผลด้วยการเปลี่ยนสีที่มาตรวัดเรืองแสง พร้อมด้วย ECON Mode ระบบช่วยลดการใช้พลังงานที่สิ้นเปลือง ซึ่งจะเป็นการปรับการทำงานของเครื่องยนต์และระบบเกียร์ให้สัมพันธ์กัน

ระบบความปลอดภัย

สำหรับเรื่องของระบบความปอดภัย เน้นไปที่เทคโนโลยีอันล้ำสมัย ช่วยให้ผู้ขับขี่มั่นใจได้ในทุกเส้นทาง โดยฟังก์ชั่นต่างๆ ประกอบด้วย ระบบเตือนและช่วยเบรกที่ความเร็วต่ำ, ระบบแสดงภาพมุมอับสายตาระหว่างเปลี่ยนเลน, ระบบ Auto Brake Hold, ระบบเบรกมือไฟฟ้า ใช้งานง่ายเพียงปลายนิ้ว, กล้องส่องภาพด้านหลัง ปรับมุมมองได้ 3 ระบบ, ระบบถุงลม 6 ตำแหน่ง, ระบบล็อกรถอัตโนมัติ เมื่อกุญแจรีโมตอยู่ห่างจากตัวรถ, ระบบช่วยการออกตัวขณะอยู่บนทางลาดชัน, ระบบช่วยควบคุมการทรงตัวขณะเข้าโค้ง, เบาะยึดที่นั่งสำหรับเด็ก และนวัตกรรม G-CON โครงสร้างตัวถังนิรภัย ช่วยปกป้องห้องโดยสารจากการชนรอบทิศทาง

ฟังก์ชันอำนวยความสะดวก

Honda HR-V มาพร้อมสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน ที่จะช่วยให้ทุกการเดินทางของคุณมีความหมายยิ่งขึ้น เริ่มต้นด้วยห้องสัมภาระท้ายขนาดใหญ่ พร้อมเบาะนั่งด้านหลังที่สามารถปรับพับได้หลายรูปแบบ ตามไลฟ์สไตล์ของผู้ใช้งาน นอกจากนี้ยังให้คุณเพลิดเพลินกับวิวด้านนอกอันสวยงาม ด้วยหลังคาซันรูฟไฟฟ้าแบบพาโนรามา พร้อมระบบเปิด-ปิดแบบ One Touch และระบบปัดน้ำฝนด้านหน้าแบบอัตโนมัติ

การเชื่อมต่อ

ไม่พลาดทุกการเชื่อมต่อด้วยระบบ Apple CarPlay พร้อม Google Maps ที่สามารถแสดงผลได้บนหน้าจอสัมผัสขนาด 7 นิ้ว อีกทั้งยังช่วยให้คุณคุยโทรศัพท์ได้ง่ายขึ้น ด้วยปุ่มรับและวางสายบนพวงมาลัย โดยข้อมูลการเชื่อมต่อโทรศัพท์จะไปแสดงผลบนหน้าจอ พร้อมด้วยฟังกชั่นอื่นๆ แบบจัดเต็ม ได้แก่ ระบบสตาร์ตเครื่องยนต์แบบอัจฉริยะ, ปุ่มควบคุมเครื่องเสียงบนพวงมาลัย, ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติ และระบบควบคุมประตูแบบอัจฉริยะ

โดยมีให้เลือกทั้งหมด 5 สี ได้แก่ สีแดงแพสชั่น (มุก), สีขาวแพลททินัม (มุก), สีเงินลูนาร์ (เมทัลลิก), สีดำคริสตัล (มุก) และสีเทาโมเดิร์นสตีล (เมทัลลิก)