5 ประเภท กาแฟ ยอดนิยมที่มือใหม่หัดดื่มต้องรู้จัก !

5 ประเภท กาแฟ ยอดนิยมที่มือใหม่หัดดื่มต้องรู้จัก !

สรุปบทความ

กาแฟ ตัวช่วยยามง่วงสุดคลาสสิกที่ใครหลายหลงรัก และขั้นตอนที่พิถีพิถันนี้เองที่ทำให้กาแฟที่ออกมามีความแตกต่างกันจนเป็นกาแฟประเภทต่าง ๆ

งานไม่เสร็จแต่ง๊วงง่วงก็ต้องหาตัวช่วยมาเติมพลังสักหน่อยด้วย ‘กาแฟ’ เครื่องดื่มสุดคลาสสิกที่ใครหลายคนเคยลิ้มลอง และด้วยขั้นตอนที่ไม่ซับซ้อนแต่มีความพิถีพิถันทำให้รสชาติของกาแฟที่ออกมามีความแตกต่างกันจนเกิดเป็นกาแฟประเภทต่าง ๆ ให้ผู้คนได้ดื่ม ซึ่งเชื่อว่าคงมีใครหลายคนที่ไม่สามารถแยกออกได้เพราะมีมากมายเหลือเกิน แต่ถ้าหากจะให้แนะนำทุกประเภทก็คงไม่หมดสักที วันนี้เราจึงเลือกมา 5 ประเภทกาแฟที่มือใหม่หัดดื่มควรรู้จัก

ก่อนที่จะไปรู้จักประเภทของกาแฟ เราจะพามารู้จักกาแฟกันก่อนว่า มีประเภทไหน ผลิตอย่างไร และการชงแบบต่าง ๆ ให้ทุกคนได้รู้ไปพร้อมกัน

ขอบคุณรูปจาก: shopejclothing.com

สายพันธุ์เมล็ด กาแฟ

เริ่มด้วยตัวเมล็ดกาแฟที่เรารู้จักกันดี ฟังเผิน ๆ หลายคนคงคิดว่ากินกาแฟที่ไหนก็คงเหมือนกัน แต่จริง ๆ แล้วรู้ไหมว่า เมล็ดกาแฟนั้นมีหลายสายพันธุ์ให้ได้เลือกลองเลยนะ โดยวันนี้เราจะมาแนะนำ 4 สายพันธุ์ ได้แก่

  • กาแฟอาราบิก้า (Arabica) สายพันธุ์กาแฟที่มีถึง 80 เปอร์เซ็นต์ในตลาดกาแฟโลก มีรสชาติดีที่สุด แต่ก็หากาแฟอาราบิก้าคุณภาพดียากเช่นกัน และเมื่อผ่านกระบวนการต่าง ๆ แล้วจะมีกลิ่นที่หอมหวานคล้ายช็อกโกแลตและดอกไม้
  • กาแฟโรบัสต้า (Robusta) สายพันธุ์กาแฟที่นิยมปลูกกันในภาคใต้ของประเทศไทย กลิ่นไม่หอมหวาน มีรสชาติที่ขมและฝาดกว่ากาแฟอาราบิก้า แต่ก็มีความเข้มข้นเยอะกว่าจึงนิยมนำมาผลิตเป็นกาแฟผงสำเร็จรูปหรือผสมพันธุ์กับกาแฟอาราบิก้าและเกิดรสชาติที่มากขึ้น
  • กาแฟเอ็กซ์เซลซ่า (Excelsa) สายพันธุ์กาแฟที่ถึงแม้จะมีหน้าตาคล้ายคลึงกบกาแฟโรบัสต้าและมีความทนต่อสภาพอากาศที่แห้งแล้งได้ดี แต่มีรสชาติที่ไม่ไม่ดีเท่าไรนัก จึงไม่ได้รับความนิยมในประเทศไทยมาก ในขณะที่ในประเทศแถบแอฟริกานั้นชื่นชอบกาแฟชนิดนี้เป็นอย่างมาก
  • กาแฟลิเบอริก้า (Liberica) สายพันธุ์กาแฟที่มีถิ่นกำเนิดในประเทศลิเบอเรีย ตัวเมล็ดมีรสชาติคล้ายกับกาแฟอราบิก้าแต่มีรสเปรี้ยวอมหวานมากกว่า สามารถทนทานต่อโรค และชอบอากาศที่ร้อนชื้น นิยมนำไปพัฒนา หรือเบลนด์กับกาแฟสายพันธุ์อื่นมากกว่ากินเพียว ๆ

ขั้นตอนการผลิต กาแฟ

ในการผลิตเมล็ดกาแฟก็เป็นอีกหนึ่งเรื่องน่ารู้สำหรับนักดื่มเพราะไม่ใช่เพียงแค่นำเมล็ดกาแฟมาบดแล้วชงเพียงเท่านั้น แต่รู้ไหมว่าการผลิตกาแฟสักถุงนั้นต้องใช้เวลานานและมีถึง 3 ขั้นตอนเลยทีเดียวเชียว จะมีอะไรบ้างมาดูกันค่ะ

การเตรียมเมล็ด

ขั้นตอนแรกหลังจากการเก็บเกี่ยวเมล็ดกาแฟจากต้นกาแฟ โดยเป็นการปอกเปลือกสีแดงของเมล็ดกาแฟออกไป แบ่งออกเป็น 2 วิธีตามสายพันธุ์ของกาแฟ

  • แบบแห้ง เป็นวิธีเตรียมเมล็ดกาแฟสายพันธุ์โรบัสต้าด้วยการนำกาแฟที่เก็บมาไปตากแห้งบนพื้นเรียบอย่างคอนกรีต โดยใช้เวลาประมาณ 2-3 สัปดาห์จนกว่าเมล็ดกาแฟจะแห้งจนหมด จึงกะเทาะเปลือกกาแฟออก
  • แบบเปียก วิธีเตรียมเมล็ดกาแฟสายพันธุ์อาราบิก้า โดยเริ่มจากการแยกผลสุก ล้างน้ำด้วยเครื่องทำความสะอาดเฉพาะ ปอกเปลือกโดยใช้เครื่อง แล้วนำกลับมาล้างเมือกบนเมล็ดกาแฟออกอีกครั้ง จึงนำไปใส่ถังหมักประมาณ 12-36 ชม. และสุดท้ายคือนำไปตากแดดเพื่อไล่ความชื้นทั้งหมดให้ออกไป

การคั่ว

หลังจากเตรียมเมล็ดกาแฟให้แห้งเรียบร้อยแล้ว ก็จะเข้าสู่กระบวนการคั่วกาแฟให้เปลี่ยนเป็นสีน้ำตาลและเกิดกลิ่นที่หอมของกาแฟที่เราได้กลิ่นกันบ่อย ๆ ซึ่งขั้นตอนนี้จะแบ่งระบบการคั่วออกเป็นทั้งหมด 3 ระดับตามความเข้มข้นของกาแฟที่ต้องการ ดังนี้

  • คั่วอ่อน ระดับแรกของการคั่วกาแฟเป็นการคั่วที่คงรสชาติของเมล็ดกาแฟไว้มากที่สุด ทำให้รสชาติกาแฟออกไปทางฝาดและเปรี้ยว มีสีน้ำตาลทองอ่อนคล้ายซินนามอน เหมาะสำหรับการทำกาแฟร้อน
  • คั่วกลาง เป็นการคั่วกาแฟในระดับกลาง มีสีที่เข้มขึ้นเล็กน้อย ส่วนรสชาติที่ได้ออกมาก็มีความเปรี้ยวลดน้อยลง แต่เพิ่มความหวานขมเล็กน้อย เหมาะสำหรับการชงกาแฟดำหรืออเมริกาโน่
  • คั่วเข้ม เป็นการคั่วระดับที่ทำให้กาแฟกลายเป็นสีน้ำตาลเข้ม รสชาติขมมากปนเปรี้ยวเล็กน้อยถึงไม่มี เหมาะสำหรับการทำกาแฟเย็นที่ต้องการรสชาติที่เข้มข้นมาก ๆ โดยเฉพาะกาแฟ espresso

การบด

ขั้นตอนสุดท้ายของการผลิตกาแฟก่อนนำไปชง ซึ่งเป็นการทำให้เมล็ดกาแฟละเอียดขึ้น และการบดกาแฟก็เป็นอีกหนึ่งขั้นตอนที่มีผลต่อรสชาติของกาแฟที่ได้ออกมา เรียกว่ายิ่งบดเยอะแค่ไหนกาแฟที่ได้ก็ยิ่งเข้มข้นขึ้น

วิธีการชง กาแฟ แบบต่าง ๆ

หลังจากที่ได้กาแฟที่บดสำเร็จแล้ว ขั้นตอนต่อไปคือการชงกาแฟ ซึ่งมีหลากหลายวิธีให้เลือกกัน

  • การต้มเดือด เป็นวิธีชงกาแฟแบบดั้งเดิม โดยการต้มผงกาแฟละเอียดเข้ากับน้ำในหม้อคอคอด และปล่อยให้เดือดเล็กน้อย จึงทำให้เกิดกาแฟ ที่มีฟองด้านบนและผงกาแฟด้านล่าง เช่น กาแฟตุรกี เป็นต้น
  • การใช้ความดัน วิธีชงกาแฟที่ได้รับความนิยมอย่างมากในปัจจุบัน เพราะทำให้เกิดกาแฟที่เข้มและมันเป็นเอกลักษณ์ ซึ่งหลักการชงกาแฟประเภทนี้คือ มีทั้งหมด 3 ส่วน มีส่วนล่างสำหรับต้มน้ำ ทำให้ไอลอยขึ้นไป ที่อยู่ในส่วนตรงกลาง และกาแฟที่ได้ก็จะขึ้นไปอยู่ด้านบน
  • การใช้แรงโน้มถ่วง หรือเรียกอีกอย่างว่า การชงแบบหยด (กรอง) มีวิธีง่าย ๆ ในการชงคือ การราดน้ำร้อนผ่านกาแฟที่อยู่บนแผ่นกรอง ซึ่งความเข้มข้นของกาแฟก็ขึ้นอยู่กับ น้ำหนักมือ อัตราการไหลของน้ำ และระยะเวลาที่น้ำผ่านเมล็ดกาแฟ
  • การจุ่ม วิธีการชงกาแฟที่ได้รับความนิยมน้อยที่สุด เป็นการจุ่มกาแฟลงไปในน้ำร้อนโดยใช้เครื่องมือที่มีลักษณะเป็นกระบอก

5 ประเภท กาแฟ ยอดนิยม

เอสเปรสโซ่ (Espresso)

กาแฟที่เป็นตัวตั้งต้นของกาแฟชนิดอื่น ๆ มีรสชาติที่เข้มข้น โดยเกิดจากชงแบบแรงอัดไอน้ำหรือปล่อยน้ำร้อนผ่านเมล็ดกาแฟ ซึ่งคำว่า Espresso มาจากภาษาอิตาลีที่แปลว่าเร่งด่วน และด้วยรสที่กล่าวมาข้างต้นทำให้คนที่ชื่นชอบการดื่มกาแฟเอสเปรสโซ่จึงไม่นิยมใส่น้ำตาลหรือนมเพิ่มลงไป

อเมริกาโน่ (Americano)

Americano หรือชื่อภาษาไทยคือ กาแฟดำ เป็นกาแฟที่เกิดจากการนำกาแฟเอสเปรสโซ่มาผสมกับน้ำร้อน ทำให้รสชาติที่ออกมามีความเบาบางลงแต่มีกลิ่นที่คล้ายกับกาแฟเอสเปรสโซ่ ส่วนชื่อของอเมริกาโน่มาจากการที่ชาวอเมริกันไม่นิยมดื่มกาแฟเอสเปรสโซ่ที่มีรสชาติเข้มข้นเกินไปจึงทำให้เจือจางลงจนกลายเป็นกาแฟอเมริกาโน่นั่นเอง

ลาเต้ (Latte)

กาแฟ ลาเต้

Latte หรือที่เรียกกันว่ากาแฟนม เพราะเป็นการผสมนมกับกาแฟเอสเปรสโซ่ ซึ่งสัดส่วนปกติของลาเต้จะอยู่ที่ กาแฟเอสเปรสโซ่ 1 ส่วน กับ นม 2 ส่วน และมีฟองนมโปะอยู่ด้านหน้าสำหรับลาเต้ร้อน ส่วนลาเต้เย็นอาจมีการใส่ส่วนผสมอื่น ๆ เพิ่ม เช่น วานิลลา หรือคาราเมล เพิ่มเติมให้กลายเป็นเมนูย่อยอื่น ๆ อีกได้

มอคค่า (Mocha)

กาแฟ มอคค่า

สำหรับกาแฟ Mocha เป็นเมนูกาแฟที่มีส่วนผสมของกาแฟเอสเปรสโซ่ นม และช็อกโกแลต ในขณะเดียวกัน ก็ยังหมายถึง กาแฟอาราบิก้าที่มีสีและกลิ่นคล้ายช็อกโกแลต ส่วนตัวกาแฟมอคค่านั้นสามารถเสิร์ฟได้ทั้งเมนูเย็นและร้อนเลยทีเดียว

คาปูชิโน่ (Cappuccino)

กาแฟ คาปู

Cappuccino เป็นกาแฟที่มีลักษณะคล้ายกับลาเต้คือมี เอสเปรสโซ่ นม และฟองนมด้านหน้า แต่จะมีความแตกต่างตรงที่ กาแฟคาปูชิโน่จะมีนมที่น้อยกว่า แต่มีฟองนมที่เยอะกว่า และมีผงช็อกโกแลตโรยอยู่ด้านหน้า ทำให้มีรสชาติที่เข้มข้นกว่าลาเต้

นอกจากนี้ยังมีกาแฟอีกหลากหลายชนิดที่ไม่ได้กล่าวถึงในบทความนี้ให้ได้ลองสั่งกัน แต่ถ้าใครที่อยากทำกาแฟกินเองหรือเปิดร้านกาแฟอร่อย ๆ ก็สามารถมากหาอุปกรณ์และกาแฟแบบที่คุณชอบได้ที่ Kaidee รับรองคุณจะได้กาแฟอร่อย ๆ ไปกินแน่นอน

สอบถามข้อมูลอื่นๆ หรือสิทธิพิเศษเพิ่มเติม

กรุณาสแกนคิวอาร์โค้ด หรือเพิ่มเพื่อนด้วยไอดีไลน์ @kaideeofficial