มือใหม่หัดขี่มอเตอร์ไซค์ มันง่ายกว่าที่คิดนะ

มือใหม่หัดขี่มอเตอร์ไซค์ มันง่ายกว่าที่คิดนะ

พูดถึงการหัดขับรถยนต์หรือหัดขี่มอเตอร์ไซค์ครั้งแรก หลายคนเริ่มต้นจากการหัดด้วยตัวเอง หรือให้คนในครอบครัวหรือเพื่อนช่วยสอน แต่สำหรับใครที่มีเงื่อนไขติดขัด เช่นว่าไม่มีรถสำหรับทดลอง หัดด้วยตัวเองหรือเรียนกับคนในบ้านแล้วไม่เวิร์ก หรือหาคนใกล้ตัวมาช่วยสอนไม่ได้ การจบลงด้วยโรงเรียนสอนขับรถถือว่าตอบโจทย์ เพราะเราจะได้ทั้งความรู้จากครูฝึกที่มีประสบการณ์ ได้ทดลองขับในบรรยากาศถนนจริง และหมดกังวลเรื่องพาหนะสำหรับฝึกซ้อม 

ฉันเองก็เป็นคนหนึ่งที่เลือกเรียนขับรถกับโรงเรียนสอนขับรถเอกชน เพราะรู้สึกสบายใจกว่าและยังจำได้ดีถึงเสียงบ่นของพี่ชายเมื่อครั้งฉันขอร้องให้ช่วยสอนขับรถยนต์แล้วดันทำได้ไม่ดี พอมาถึงคราวที่อยากขี่มอเตอร์ไซต์เป็นกับเขาบ้าง ฉันเลยไม่รั้งรอเสิร์ชหาโรงเรียนสอนขับรถจักรยานยนต์จากกูเกิล โดยพบว่าแบรนด์ผู้ผลิตจักรยานยนต์รายใหญ่ของประเทศอย่าง HONDA และ YAMAHA ต่างมีสถาบันสอนขับขี่มอเตอร์ไซค์เป็นของตัวเอง มีคอร์สอบรมตั้งแต่มือใหม่หัดขับ การขับขี่รถจักรยานยนต์บิ๊กไบค์ รวมถึงเป็นศูนย์อบรมและสอบใบขับขี่รถจักรยานยนต์ที่ได้รับการรับรองจากกรมการขนส่งทางบกด้วย

จากข้อมูลดังกล่าวทำให้ตัวเลือกของฉันเหลือแค่ HONDA Safety Riding Center และ YAMAHA Riding Academy ไปโดยปริยาย เพราะคิดว่าไหนๆ จะเป็นมือใหม่หัดขี่มอเตอร์ไซค์แล้ว เรียนกับผู้ผลิตรถเลยแล้วกันน่าจะได้ความรู้จากมืออาชีพจริงๆ ซึ่งท้ายที่สุดฉันตัดสินใจเลือกลงทะเบียนกับ YAMAHA Riding Academy (YRA) ด้วยเหตุผล 2 ประการคือ 

  1. YRA มีหลักสูตรขับขี่รถจักรยานยนต์สำหรับมือใหม่โดยเฉพาะ (รถที่ใช้เรียนเป็นเกียร์อัตโนมัติ)ใช้เวลาเรียนแค่ 1 วัน จึงตอบโจทย์เรื่องการลางานได้ดีกว่าของ HONDA ที่ต้องเรียน 2 วันต่อเนื่อง (ทั้งสองที่ต้องเรียนวันธรรมดา)
  2. ค่าคอร์สเรียนที่ YRA เพียง 400 บาทเท่านั้น แถมราคานี้ยังได้เสื้อแขนยาวกลับบ้าน 1 ตัว อาหารกลางวัน 1 มื้อ และ Coffee Break เรียกว่าคุ้มค่ามากกก  ซึ่งฉันมารู้ทีหลังว่าการเปิดศูนย์อบรมขับขี่มอเตอร์ไซค์ของ YRA นั้นเป็นส่วนหนึ่งของงาน CSR ของแบรนด์ยามาฮ่าที่ต้องการตอบแทนคืนสู่สังคมจึงทำให้ค่าเรียนของที่นี่ถูกกว่าที่อื่นๆ
สภาพสนามฝึกซ้อมของ YAMAHA Riding Academy ที่มีหลักสูตรสอนตั้งแต่พื้นต้นจนถึงแอดวานซ์
ขอบคุณภาพจาก YAMAHA Riding Academy

เรียนขี่มอเตอร์ไซค์ครั้งแรกกับผู้ผลิตมอเตอร์ไซค์

เช้าตรู่ของวันที่เปิดเรียน ฉันขับรถยนต์ส่วนตัวมุ่งหน้าสู่ถนนบางนา-ตราดเพื่อไปยังสถาบันฝึกอบรมขับขี่รถจักรยานยนต์ยามาฮ่า (YRA) ที่ตั้งอยู่ริมถนนบางนา-ตราด กม.21 เมื่อไปถึงฉันต้องสแกนอุณหภูมิร่างกาย ติดสติ๊กเกอร์เพื่อเป็นสัญลักษณ์ว่าไม่มีไข้ จากนั้นจึงลงทะเบียนว่ามาถึงแล้ว พร้อมกับได้รับเสื้อแขนยาว 1 ตัว กับกุญแจล็อคเกอร์ 1 อัน สำหรับเก็บของมีค่าที่ติดตัวมาด้วย เพื่อเวลาลงสนามฝึกหัดขับขี่จะได้ไม่มีอะไรให้เป็นห่วงรุงรัง

กำหนดการคร่าวๆ ของหลักสูตรนี้คือ ช่วงเช้าฟังอบรมความรู้ขับขี่พื้นฐานในห้องเรียน ช่วงสายลงภาคสนามทำความคุ้นเคยกับรถจักรยานยนต์และอุปกรณ์ที่จำเป็น สุดท้ายคือช่วงบ่ายเป็นภาคปฏิบัติลองขับขี่มอเตอร์ไซค์จริงๆ  

ความรู้ภาคทฤษฏีเป็นเรื่องการขับขี่อย่างไรให้ปลอดภัย แม้จะน่าเบื่อบ้างแต่ถ้าพิจารณาดีๆ จะพบว่าเป็นเรื่องสำคัญมากๆ เพราะอุบัติเหตุบนท้องถนนที่เกิดขึ้นทุกวันนี้ ส่วนหนึ่งมาจากตัวผู้ขับขี่ละเลยพื้นฐานนั่นเอง สำหรับเนื้อหาการเตรียมตัวขับขี่มอเตอร์ไซค์ ที่นี่สอนตั้งแต่การเลือกสวมใส่เครื่องแต่งกายที่ควรเป็นเสื้อแขนยาว กางเกงขายาว รองเท้าหุ้มส้น แว่นกันลม ถุงมือ และขาดไม่ได้คือหมวกกันน็อค ซึ่งประเภทที่ปลอดภัยสูงสุดคือ “หมวกกันน็อคเต็มใบ” (Full Face) เนื่องจากมีส่วนป้องกันครอบคลุมทั้งศีรษะทั้งด้านหน้า ด้านข้าง และด้านหลังบริเวณท้ายทอย 

ในคอร์สนี้ มือใหม่อย่างฉันยังได้รู้จักส่วนประกอบพื้นฐานของรถมอเตอร์ไซค์ว่าตรงไหนเรียกว่าอะไร และมีหน้าที่อย่างไรบ้าง ได้รู้วิธีการตรวจเช็ครถมอเตอร์ไซค์ก่อนการขับขี่ ท่าทางการนั่งที่เหมาะสม หลักการใช้เบรก รวมไปถึงข้อควรระวังต่างๆ ทั้งขณะออกรถ หยุดรถ และกำลังขับขี่อยู่บนท้องถนน

การฝึกหัดขับขี่สำหรับมือใหม่ เน้นขี่ในช่วงสั้นๆ ก่อน
ขอบคุณภาพจาก YAMAHA Riding Academy

ทำความรู้จักกับมอเตอร์ไซค์เพื่อขับขี่ปลอดภัย

หลังจากมีความรู้พื้นฐานที่จำเป็นแล้ว ตอนนี้ได้เวลาไปทำความคุ้นเคยกับรถจักรยานยนต์เสียที ซึ่งทาง YRA เตรียมอุปกรณ์เซฟตี้ไว้พร้อมสุดๆ ทั้งสนับศอก สนับเข่าที่คลุมถึงหน้าแข้ง ถุงมือ หมวกผ้าสำหรับสวมรองก่อนใส่หมวกกันน็อค และหมวกกันน็อคแบบเต็มใบ เรียกว่าสร้างความอุ่นใจให้ฉันได้เยอะเลยว่าหากรถล้มคงไม่เจ็บตัวมากนัก 

สิ่งแรกที่ครูฝึกสอนคือการใช้ขาตั้งคู่ เนื่องจากเป็นการจอดรถมอเตอร์ไซค์ที่เหมาะสม ได้ความมั่นคงและไม่ทำให้ผิวล้อยางเสื่อมเฉพาะด้านเหมือนอย่างการจอดโดยขาตั้งข้าง ซึ่งตรงนี้ครูฝึกจะเข้ามาช่วยดูแบบตัวต่อตัวเลยทีเดียว 

หลังจากซ้อมใช้และเก็บขาตั้งคู่จนคล่องแล้ว ถัดมาคือการจูงรถเดินหน้าและถอยหลัง สำหรับการจูงรถเดินหน้าไม่ยากเลย ใช้สองมือจับแฮนด์รถทั้งสองข้าง มือขวาประคองเบรกหน้าเพื่อใช้ยามจำเป็น ลำตัวของเรายืนชิดตัวรถเพื่อดันและสร้างสมดุลไม่ให้ล้มไปด้านใดด้านหนึ่ง ออกแรงดันอีกนิดรถก็เคลื่อนที่ไปข้างหน้าได้อย่างสบาย ส่วนการจูงรถถอยหลังให้เอามือซ้ายจับแฮนด์ มือขวาจับที่มือจับด้านหลังรถ ค่อยๆ ดันรถไปทางด้านหลังช้าๆ พยายามรักษาแนวตรงของรถไว้เป็นอันใช้ได้ 

แบบฝึกหัดสุดท้ายก่อนพักกลางวัน ครูฝึกให้ลองขึ้นนั่งบนมอเตอร์ไซค์ที่จอดด้วยขาตั้งคู่ เพื่อจัดตำแหน่งที่นั่งให้เหมาะสม พร้อมกับทดลองบิดคันเร่งขณะเครื่องสตาร์ทอยู่เพื่อรับรู้ความสัมพันธ์ระหว่างมือที่กำลังบิดคันเร่งกับความแรงของเครื่องยนต์ ทำให้เราพอรู้ว่าหากบิดแรง บิดเบาจะช่วยเซฟเราได้อย่างไร เพราะจากที่ฉันทดลองบิดเต็มแรง รถมีอาการสั่นแรงทันทีและเหมือนจะพุ่งออกจากขาตั้งได้เลย แต่ยังโชคดีที่ครูฝึกช่วยดึงท้ายเอาไว้เสียก่อน 

จากนั้นจึงเป็นการขยับแฮนด์รถเพื่อเลี้ยวซ้าย-ขวา และการทำความคุ้นเคยกับเบรกหน้าและหลัง ซึ่งการหยุดรถที่มีประสิทธิภาพนั้นจะต้องหยุดอย่างนุ่มนวล ใช้ทั้งเบรกหน้าและเบรกหลังพร้อมกัน ไม่ควรใช้เบรกหน้าเพื่อหยุดกระทันหันเพราะอาจเกิดแรงเหวี่ยงทำให้เราพุ่งตัวไปด้านหน้าจนอาจเป็นอันตรายได้

เมื่อทำความรู้จักฟังก์ชั่นที่จำเป็นครบถ้วนแล้ว ครูฝึกจึงให้ชุดคำสั่งเพื่อทำตาม เช่น บิดคันเร่ง คืนคันเร่ง เบรกหลัง และเลี้ยวซ้าย เป็นต้น ถือเป็นการฝึกสมาธิไปในตัว

ฝึกใช้และเก็บขาตั้งคู่สำหรับการจอดรถที่ปลอดภัย
ขอบคุณภาพจาก YAMAHA Riding Academy

ขี่มอเตอร์ไซค์แบบกล้าๆ กลัวๆ แต่เราต้องรอด

อิ่มกับข้าวกล่องมื้อกลางวันเรียบร้อยแล้ว ก็ถึงเวลาที่ตื่นเต้นที่สุดของหลักสูตรเรียนขับขี่รถจักรยานยนต์สำหรับมือใหม่ นั่นคือการลงไปขับขี่ในสนามฝึกซ้อม จากข้อมูลในเว็บไซต์ YRA บอกไว้ว่าสนามแห่งนี้มีขนาดถึง 10,907 ตารางเมตร ได้มาตรฐานตามกรมการขนส่งกำหนด และเป็นมาตรฐานเดียวกับสนามทดสอบในประเทศญี่ปุ่นอีกด้วย 

ครูฝึกช่วยทบทวนบทเรียนในครึ่งเช้าอีกรอบแล้วจึงบอกให้ทุกคนเข็นรถจักรยานยนต์ที่จอดอยู่ริมสนามเป็นแถวเรียงหนึ่งไปยังจุดเริ่มต้น โดยเส้นทางฝึกซ้อมนั้นจัดเป็นทรงรีคล้ายกับรูปแคปซูล มีครูฝึกเกือบ 10 คนยืนประจำเป็นช่วงๆ พร้อมกับกรวยสีส้ม กะจากสายตาระยะห่างแต่ละจุดน่าจะประมาณ 10-15 เมตร   

เมื่อทุกคนกำเบรกและสตาร์ทเครื่องครั้งแรกพร้อมแล้ว ครูฝึกจึงทยอยปล่อยตัวรถไปทีละคัน ซึ่งทุกคนต้องปฏิบัติตัวตามการขับขี่ปลอดภัยเบื้องต้นนั่นคือ วางเท้าขวาบนตัวรถ วางเท้าซ้ายที่พื้นถนนเพื่อพยุงไม่ให้รถล้ม หันมองด้านหลังเพื่อเช็คว่าไม่มีรถคันอื่นวิ่งมาแล้วจึงเปิดไฟเลี้ยวขวา บิดคันเร่งออกตัว พร้อมกับยกเท้าซ้ายขึ้นวางบนตัวรถให้เรียบร้อย

เมื่อใกล้ถึงกรวยที่อยู่ถัดออกไปก็ให้คืนคันเร่ง และเบรกอย่างนุ่มนวล พร้อมวางเท้าซ้ายบนถนนอีกครั้ง ซึ่งครูฝึกประจำแต่ละตำแหน่งจะคอยดูเราตั้งแต่ออกตัว พร้อมกับให้คำแนะนำเพื่อให้การขับขี่ในจุดถัดไปทำได้ดีขึ้น สำหรับใครที่ยังทำได้ไม่ดี เช่น เกร็งเกินไป ทรงตัวไปนิ่ง ท่านั่งไม่ถูกต้อง ครูฝึกจะตามประกบชนิดที่วิ่งตามไปกับรถเลยก็ว่าได้  

ในรอบแรกๆ เราฝึกขับขี่กันเป็นเส้นตรงอย่างเดียว นั่นแปลว่าพอถึงช่วงทางโค้งของสนาม ฉันต้องลงจากรถแล้วจูงรถเดินแทน ซึ่งต้องบอกว่าการขับมอเตอร์ไซค์ในทางตรงนั้นง่ายมากๆ แค่ฉันบิดคันเร่งเบาๆ ก็พาให้ไปถึงจุดหมายได้แล้ว และนั่นทำให้ความรู้สึกกล้าๆ กลัวๆ ที่มีอยู่ตอนแรกเปลี่ยนเป็นความมั่นใจมากขึ้น 

เมื่อฝึกขับทางตรงจนเข้าที่เข้าทางแล้ว ครูฝึกจึงอัปเลเวลเพิ่มการขับขี่ทางโค้งเข้ามาด้วยพร้อมกับทางตรงที่ช่วงยาวขึ้น ตอนหักแฮนด์เข้าโค้งครั้งแรก ฉันแอบเกร็งแขนสั่นนิดๆ เพราะยังกะระยะจุดเลี้ยวไม่ถูก แต่ก็ได้ครูฝึกนี่แหละที่ช่วยไกด์ว่าต้องดูตรงไหน ผ่อนคันเร่ง แตะเบรกอย่างไร เพื่อให้เข้าโค้งได้อย่างสมูทปลอดภัย จนฉันรู้สึกว่าเรียนขี่มอเตอร์ไซค์รอบนี้รอดแล้ว ได้ใช้ไปซื้อของที่ร้านสะดวกซื้อหน้าปากซอยแน่นอน

ซ้อมเข้าโค้งจนกว่าจะคล่อง
ขอบคุณภาพจาก YAMAHA Riding Academy

สรุปท้ายบทความ

กว่า 3 ชั่วโมงท่ามกลางแดดเปรี้ยงผ่านไปอย่างรวดเร็ว การฝึกหัดขับขี่มอเตอร์ไซค์ครั้งแรกในชีวิตของฉันเป็นไปอย่างราบรื่น แม้จะยังไม่คล่องแคล่วเหมือนกับคนที่ขับขี่เป็นประจำ แต่ครูฝึกทุกคนก็ให้กำลังใจด้วยใจความคล้ายๆ กันว่าการขี่มอเตอร์ไซค์ต้องอาศัยสะสมชั่วโมงบินเก็บเกี่ยวประสบการณ์ไปเรื่อยๆ และที่สำคัญต้องไปลืมเอาพื้นฐานที่เรียนในวันนี้มาใช้เสมอ เพื่อเราจะได้ไม่ประมาทและไม่เกิดอุบัติเหตุในอนาคต  

โดยความเห็นส่วนตัวสำหรับมือใหม่ ฉันชอบวิธีการสอนของครูฝึกที่นี่เพราะเรียบเรียงสิ่งที่ผู้ขับขี่รถจักรยานยนต์ควรรู้ได้อย่างเป็นขั้นเป็นตอน เริ่มสอนจากสิ่งที่ทำได้ง่ายไปสู่เทคนิคที่สูงขึ้น จึงทำให้ผู้เรียนรู้สึกว่าการฝึกฝนแต่ละฐานไม่ยากเกินความสามารถ 

นอกจากนี้ยังรู้สึกอุ่นใจเพราะครูฝึกที่เข้ามาดูแลตั้งแต่เช้าจรดเย็นมีนับสิบคน ทำให้รู้สึกเหมือนกำลังเรียนแบบตัวต่อตัว ไม่เข้าใจตรงไหนก็ถามได้คำตอบทันที แถมครูแต่ละคนยังเป็นกันเอง ให้กำลังใจตลอด เลยทำให้ผ่อนคลายและสนุกไปกับการเรียนตลอดทั้งวัน 

รวมไปถึงมีการเตรียมอุปกรณ์ป้องกันต่างๆ ไว้อย่างดีจนทำให้มือใหม่ที่เคยกล้าๆ กลัวๆ อย่างฉันมีความมั่นใจที่จะขับขี่มอเตอร์ไซค์เพิ่มขึ้นเป็นกอง และสัญญากับตัวเองว่าจะฝึกซ้อมเพิ่มขึ้น แล้วกลับมาสอบเอาใบขับขี่อย่างเป็นเรื่องเป็นราวอย่างแน่นอน

สำหรับมือใหม่คนไหนที่สนใจอยากหัดขับขี่รถจักรยานยนต์กับมืออาชีพ สามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ YAMAHA Riding Academy และหากต้องการซื้อมอเตอร์ไซค์เพื่อใช้งานสักคันที่ Kaidee มีให้เลือกทั้งมอเตอร์ไซค์มือหนึ่งและมือสองเลย

สอบถามข้อมูลอื่นๆ หรือสิทธิพิเศษเพิ่มเติม

กรุณาสแกนคิวอาร์โค้ด หรือเพิ่มเพื่อนด้วยไอดีไลน์ @kaideeofficial