ทุกวันนี้เทคโนโลยีภายในรถยนต์นับว่ามีความสำคัญพอ ๆ กับเครื่องยนต์ เนื่องจากระบบเหล่านี้เป็นหัวใจสำคัญของการขับขี่ ตั้งแต่ความปลอดภัยไปจนถึงการเชื่อมต่อและการสื่อสาร ดังนั้นเมื่อรถยนต์มีความซับซ้อนมากขึ้น แน่นอนว่ามันจะส่งผลโดยตรงต่อกับชีวิตของคุณ
ซึ่งวันนี้เราได้รวมเทคโนโลยียานยนต์น่าสนใจที่คุณควรมองหาเมื่อมีความคิดอยากจะซื้อรถใหม่สักคันมาให้แล้ว จะมีอะไรบ้างนั้นไปดูกัน
- ระบบขับขี่ขั้นกว่า (Advanced Driver Assist Systems)
- เบรคฉุกเฉินอัตโนมัติ (Automatic Emergency Braking)
- เชื่อมต่อผ่าน Mobile Apps/Digital Key
- เทคโนโลยีสำหรับมือใหม่หัดขับ (Teen Driver Technology)
- แจ้งเตือนทันทีเมื่อมีไม่ปลอดภัย (Exit Warning to Protect Cyclists)
- ชาร์จ เชื่อมต่อ ผ่านระบบ Wireless (Wireless Smartphone Charging and Connectivity)
- ขับขี่อุ่นใจกับกล้อง 360 องศา (360-Degree Camera)
- มองกระจกหลังผ่านวิดีโอ (Video Rearview Mirror)
- ระบบรักษาความปลอดภัย (Stolen Vehicle Tracking Software)
- ปลอดภัยตลอดเส้นทางด้วยจอแสดงจุดบอด (Blind-Spot View Monitor)
- สรุปท้ายบทความ
ระบบขับขี่ขั้นกว่า (Advanced Driver Assist Systems)
บริษัทยานยนต์หลายบริษัทต่างพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า เทคโนโลยีที่สามารถตอบสนองต่ออันตรายได้อย่างรวดเร็ว สามารถลดความเมื่อยล้าของผู้ขับขี่ได้ คือตัวช่วยแห่งอนาคตที่จะทำให้การขับขี่ง่ายกว่าที่เคย ซึ่งระบบเหล่านี้มักจะมาเป็นชุดอุปกรณ์เช่น Ford’s Co-Pilot360, Subaru’s EyeSight และ Toyota Safety Sense แต่ส่วนใหญ่มักจะเป็นตัวเลือกเพิ่มเข้ามามากกว่า
เทคโนโลยีรถยนต์ที่น่าสนใจ
- ระบบควบคุมความเร็ว : ช่วยรักษาความเร็วรถของคุณให้อยู่ในระดับที่เหมาะสม ไม่ว่าจะชะลอหรือเร่งความเร็ว เพื่อรักษาระยะห่างกับจากรถคันข้างหน้า และป้องกันอุบัติเหตุที่อาจเกิดขึ้น
- แจ้งเตือนเมื่อออกนอกเส้นทาง : แจ้งเตือนทันทีเมื่อรถกำลังออกนอกเส้นทาง
- ระบบช่วยให้รถอยู่ในเลน
- แจ้งเตือนจุดบอด
- แจ้งเตือนเมื่อรถข้ามเลน : แจ้งให้คุณทราบหากมีสิ่งผิดปกติเข้ามาบริเวณตัวรถ บางระบบจะแสดงทิศทางที่รถคันอื่นกำลังมาอีกด้วย
- ระบบช่วยเบรคถอยหลัง : หากตรวจจับได้ว่ามีวัตถุอยู่ด้านหลังรถในขณะที่กำลังถอย ระบบช่วยเบรคถอยหลังจะหยุดรถของคุณทันที เพื่อหลีกเลี่ยงอุบัติเหตุ
เบรคฉุกเฉินอัตโนมัติ (Automatic Emergency Braking)
ระบบเบรกฉุกเฉินอัตโนมัติ (AEB) จะเปิดใช้งานทันทีที่รถของคุณจะชน และแน่นอนว่า AEB สามารถตอบสนองได้เร็วกว่ามนุษย์ และสามารถทำงานได้อย่างรวดเร็วก่อนที่คุณจะตัดสินใจเหยียบเบรกซะอีก
ในกรณีที่คุณกำลังเบรค แต่รู้สึกว่าคุณต้องหยุดรถเร็วกว่านั้น AEB ยังสามารถเบรกได้หนักกว่าแรงกดที่คุณใช้อีกด้วย ส่วนจะมีรถเจ้าไหนเริ่มใช้งานระบบดังกล่าวบ้างต้องติดตามกันต่อไป
เชื่อมต่อผ่าน Mobile Apps/Digital Key
ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าในยุคที่โทรศัพท์มือถือกลายเป็นอวัยวะที่ 33 ของมนุษย์ การใช้ประโยชน์จากเครื่องมือสื่อสารประเภทนี้จึงเป็นตัวช่วยที่น่าสนใจ ซึ่งผู้ผลิตรถยนต์ส่วนใหญ่เสนอให้มีการเชื่อมแอปสมาร์ทโฟนกับรถยนต์ ไม่ว่าจะเป็น ช่วยปลดล็อกประตูจากระยะไกล ตรวจสอบสถานะระดับน้ำมันเชื้อเพลิงและแรงดันลมยาง หรือแม้กระทั่งสตาร์ทรถจากระยะไกล
สำหรับใครที่กังวลว่าถ้ามือถือโดนขโมยจะทำอย่างไร ไม่ต้องกังวลไป เพราะคีย์ดิจิทัลมีมาตรการรักษาความปลอดภัยชั้นสูงที่จะผูกเฉพาะโทรศัพท์กับรถของคุณเท่านั้น
เทคโนโลยีสำหรับมือใหม่หัดขับ (Teen Driver Technology)
Teen Driver ทำหน้าที่เป็นตัวช่วยให้เหล่ามือใหม่หัดขับทั้งหลาย ส่วนระบบต่าง ๆ ของรถมีตัวอย่างดังนี้
- แจ้งเตือนคุณหากรถขับด้วยความเร็วที่กำหนด
- ปิด/เปิดเสียงแจ้งเตือน เมื่อใช้เข็มขัดนิรภัยอย่างถูกต้อง
นอกจากนี้ยังมีระบบรายงานให้ผู้ปกครองทราบด้วยว่าระบบความปลอดภัยต่าง ๆ ทำงานอยู่ รวมไปถึงการแจ้งเตือนเมื่อเกิดอุบัติเหตุ เพื่อให้ผู้ปกครองอุ่นใจและมั่นใจว่าลูกหลานของตนนั้นปลอดภัยขณะอยู่หลังพวงมาลัย

แจ้งเตือนทันทีเมื่อมีไม่ปลอดภัย (Exit Warning to Protect Cyclists)
บ่อยครั้งที่ผู้ขับขี่ต้องกังวลกับรถที่จอดและเคลื่อนที่ไปมา ซึ่งสิ่งที่จะช่วยให้ผู้ขับขี่รู้สึกสบายใจได้ ก็คือการแจ้งเตือน ระบบการแจ้งเตือนจะทำงานอยู่สักพักหลังจากดับเครื่องยนต์ หากเซ็นเซอร์เห็นว่ามีนักปั่นจักรยานหรือยานพาหนะอื่น ๆ ใกล้เข้ามา ระบบจะแจ้งเตือนผู้โดยสารด้วยไฟที่ส่องสว่าง พร้อมล็อกประตูเพื่อป้องกันไม่ให้ผู้ขับขี่เปิดประตูและผู้โดยสารเปิดไปโดนวัตถุที่กำลังเข้าใกล้ตัวรถ
ชาร์จ เชื่อมต่อ ผ่านระบบ Wireless (Wireless Smartphone Charging and Connectivity)
การเชื่อมต่อสมาร์ทโฟนกับแท่นชาร์จในปัจจุบัน เพื่อน ๆ คงเห็นได้ว่ามีตัวเลือกน่าสนใจเยอะมากขึ้น แต่ออพชันดังกล่าวจะพบได้ในรถยนต์ราคาค่อนข้างสูง ถ้าเพื่อน ๆ ต้องการชาร์จโทรศัพท์ขณะเดินทางมากกว่าหารถยนต์ที่มีการชาร์จแบบไร้สาย การใช้แผ่นชาร์จที่เรียกว่า Qi ก็เป็นอีกหนึ่งตัวเลือกที่ดี เพราะติดตั้งง่าย ใช้งานสะดวก มีความรวดเร็ว
ขับขี่อุ่นใจกับกล้อง 360 องศา (360-Degree Camera)
ด้วยการรวมกล้องทุกด้านของรถเข้ากับเทคโนโลยีอันชาญฉลาด จอแสดงผลของรถของคุณจะสามารถแสดงมุมมองจากบนลงล่างเสมือนจริงของสภาพแวดล้อมของคุณ สามารถแสดงด้านข้างของโรงรถของคุณหรือว่าคุณอยู่ระหว่างเส้นจอดรถที่ร้านขายของชำ นอกจากนี้ยังสามารถให้ความช่วยเหลือล้ำค่าในขณะจอดรถคู่ขนาน คุณสามารถพบระบบกล้องเหล่านี้ได้ในยานพาหนะหลายประเภทซึ่งหลายรุ่นมีราคาปานกลาง
มองกระจกหลังผ่านวิดีโอ (Video Rearview Mirror)
เคยไหม ? ของเต็มรถไปหมด พอมองกระจกหลังของพวกนั้นก็บังหมด แล้วเราจะมีกระจกหลังไว้ทำไมกันล่ะ ? คำถามนี้จะหมดไปถ้าคุณมีนวัตกรรมที่เรียกว่ากระจกมองหลังแบบวิดีโอโดยใช้กล้องด้านหลังเพื่อแสดงมุมมองด้านหลังรถ ที่สำคัญเพื่อน ๆ ยังสามารถสลับมุมมองไปมาตามต้องการได้
ระบบรักษาความปลอดภัย (Stolen Vehicle Tracking Software)
รู้หรือไม่ ปี 2020 มีรถยนต์มากกว่า 720,000 คันถูกขโมย !! แต่สิ่งที่น่าสนใจคือเจ้าของรถยนต์กว่า 56%
ได้รถคืน และปฏิเสธไม่ได้เลยว่าสิ่งที่เกิดขึ้นส่วนหนึ่งมาจากเทคโนโลยีของระบบความปลอดภัยและการให้ความช่วยเหลือ พูดง่าย ๆ คือ Stolen Vehicle Tracking Software คือนวัตกรรมช่วยให้หน่วยงานต่าง ๆ บังคับใช้กฎหมายในการค้นหาได้นั่นเอง
นอกจากสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ รวมไปถึงการแจ้งเตือนหลังเกิดอุบัติเหตุเพื่อเรียกบริการช่วยเหลือแล้ว สิ่งที่เรียกว่า Stolen Vehicle Tracking Software ยังมีความสามารถในการระบุตำแหน่งของรถอีกด้วย
ปลอดภัยตลอดเส้นทางด้วยจอแสดงจุดบอด (Blind-Spot View Monitor)
หลายคนน่าจะเคยประสบปัญหากำลังจะเปลี่ยนเลน แต่มีดันรถจากไหนไม่รู้โผล่มาจนเหยียบเบรคแทบไม่ทัน จุดบอดพวกนี้อาจสร้างความรำคาญใจ และก่อให้เกิดอันตรายเวลาขับขี่ได้ แต่ไม่ต้องกังวลไป เพราะจอแสดงจุดบอดขณะขับขี่จะเข้ามาแก้ปัญหาพวกนี้ให้หมดไป
หน้าจอจะแสดงให้คุณเห็นว่ามีอะไรอยู่ข้างรถบ้างในเวลาที่คุณจะเปลี่ยนเลน หรือในเวลาที่ต้องการดูการจราจรรอบข้างเพื่อการตัดสินใจที่ดียิ่งขึ้น ซึ่งเทคโนโลยีเหล่านี้ก็มีหลากหลายเวอร์ชันให้เลือกด้วยกัน แต่ถ้าเลือกที่ดูง่ายคือแสดงผลในกลุ่มมาตรวัด เช่น รถยนต์ยี่ห้อ Genesis, Kia และ Hyundai เป็นต้น
สรุปท้ายบทความ
โลกหมุนเร็วจนตามแทบไม่ทันแบบนี้ การเตรียมพร้อมรับมือกับการเปลี่ยนแปลงคือสิ่งสำคัญ โดยเฉพาะกับเรื่องของการขับขี่ด้วยแล้ว เราว่ามันดีมาก ๆ เพราะเทคโนโลยีเหล่านี้จะเข้ามาช่วยให้การใช้ชีวิตบนท้องถนนของทุก ๆ คน ปลอดภัยมากยิ่งขึ้น และเราว่าการพัฒนายังไม่หยุดแค่นี้แน่นอน น่าจะมีตัวช่วยดี ๆ เจ๋ง ๆ เกิดขึ้นอีกแน่นอน พูดอะไรไม่ได้มากนอกจาก ..รอติดตามตอนต่อไป