ผ้าม่าน เป็นอุปกรณ์การแต่งบ้านชิ้นสำคัญ ที่นอกจากจะช่วยเพิ่มความสวยงามให้ที่อยู่อาศัยแล้ว ผ้าม่านยังเป็นตัวช่วยที่จะทำให้เพิ่มความเป็นส่วนตัวและป้องกันแสงแดดที่จ้าจนเกินไปเข้ามายังบ้านของคุณอีกด้วย ซึ่งด้วยการตกแต่งผ้าม่านภายในบ้านที่มีถึง 30% นี้เอง ที่ส่งผลให้การเลือกซื้อผ้าม่านจำเป็นจะต้องเป็นไปด้วยความระมัดระวังและศึกษาให้ดีก่อนตัดสินใจ มิเช่นนั้นคุณอาจเสียเงินไปกับผ้าม่านอย่างสูญเปล่าก็เป็นได้ และวันนี้เราจะมาพาทุกคนไปทำความรู้จักกับผ้าม่านแต่ละแบบพร้อมเคล็ดลับวิธีการเลือกซื้อผ้าม่านให้ถูกใจ
ผ้าม่าน มีกี่ประเภทกัน ?
เชื่อหรือไม่ว่า ผ้าม่านที่มีลักษณะแตกต่างกัน ก็ทำให้ผู้อยู่อาศัยได้รับรู้และรู้สึกถึงอารมณ์ที่แตกต่างกัน ซึ่งสามารถแบ่งเป็นประเภทต่าง ๆ ได้ทั้งหมด 8 แบบ ได้แก่
ม่านจีบ
ม่านจีบ ถือเป็นม่านที่ได้รับความนิยมมากในปัจจุบัน เพราะสามารถตกแต่งกับบ้านได้หลากหลายสไตล์ มีลักษณะเด่นคือ มีจีบที่ถูกจับอยู่ด้านบนและปล่อยยาวลงมา มีการใช้งานที่สะดวกเพราะรางที่สามารถเว้นระยะห่างได้ด้วยตัวเอง และแบ่งเป็น 2 ราง ได้แก่ ม่านโปร่งและม่านทึบ
ม่านตาไก่
จุดเด่นของ ม่านตาไก่ คือ การเจาะรูผ้าม่านเพื่อนำมาร้อยกับราวม่าน ให้ความรู้สึกเรียบหรู พลิ้วไหว มีน้ำหนักที่ไม่เบาจนเกินไป เพื่อให้ผ้าสามารถทิ้งตัวได้อย่างสวยงาม ทำให้นิยมใช้กับการตกแต่งบ้านสไตล์ร่วมสมัยและคลาสสิก หรือบ้านสไตล์โมเดิร์นที่มีรางแบบทันสมัย
ม่านคอกระเช้า
ม่านคอกระเช้า เป็นผ้าม่านที่แสนจะเรียบง่าย แต่สวยงามในความเป็นธรรมชาติ ลักษณะของม่านจะไม่มีการจับจีบเช่นเดียวกับม่านตาไก่ แต่รูปร่างของห่วงจะเหมือนเสื้อกล้าม ที่คล้องกับคาน ซึ่งเทคนิคเล็กน้อย ๆ ในการตกแต่งม่านแบบนี้ก็ทำได้ด้วยการเย็บกระดุมหรือโบให้กับตัวผ้าม่าน

ม่านพับ
ม่านพับ มีความแตกต่างกับม่านประเภทอื่นที่การเปิดปิดจะอยู่ในแนวขวาง และคลายออกทีละชั้นลงมาเมื่อต้องการปิด ให้ความรู้สึกถึงการเป็นระเบียบเรียบร้อย ซึ่งม่านประเภทนี้เหมาะกับบ้านสไตล์โมเดิร์นหรือติดกับประตูและหน้าต่าง โดยเราสามารถติดหลายบานเรียงกันเพื่อการเปิด-ปิด ที่สะดวก ไม่จำเป็นต้องเปิดทั้งหมด และยังดูแลทำความสะอาดง่ายอีกด้วย
ม่านม้วน
ม่านม้วน มักจะพบเห็นได้บ่อยตามออฟฟิศต่าง ๆ มีลักษณะคล้ายกับม่านพับแต่แตกต่างตรงการเปิด-ปิดจะเป็นการม้วนแทนการพับ เหมาะกับคนที่ต้องการความรวดเร็วในการติดตั้งและใช้งาน เพราะมีความสะดวกในการจัดเก็บและใช้งาน สามารถปรับระดับการเปิด-ปิดได้ อีกทั้งยังทำความสะอาดได้ง่าย มีให้เลือกหลากหลายแบบทั้งกันแสงและกรองแสง
ม่านหลุยส์
ถ้าหากไปตามโรงละครอันหรูหรา คุณจะเห็นได้ว่ามีม่านอันสวยงามอลังการที่เรียกว่า ม่านหลุยส์ ประดับตกแต่งอยู่รอบเวที ซึ่งมีลักษณะการเย็บแบบเฉพาะตัว แสดงถึงความมีระดับ แต่ก็ต้องแลกมาด้วยเนื้อผ้าที่หนา ทำให้เป็นม่านที่เก็บฝุ่น และมีการดูแลรักษาที่ยากกว่าปกติ
ม่านลอน
อีกหนึ่งม่านที่ได้รับความนิยมในปัจจุบัน เพราะลักษณะของ ม่านลอน ที่ด้านบนจะมีความคล้ายคลึงกับม่านจีบ แต่ด้านล่างจะมีความเป็นลอนคล้ายกับม่านตาไก่ ทำให้อารมณ์ที่แปลกตา เรียบหรู และทันสมัยเข้ากับการตกแต่งบ้านสไตล์โมเดิร์น
มู่ลี่
มู่ลี่ เป็นม่านที่ทำจากวัสดุอื่นที่ไม่ใช่ผ้าอย่าง อะลูมิเนียมและไม้ มีข้อดีที่ทำความสะอาดได้ง่าย ไม่เก็บฝุ่น แข็งแรง อีกทั้งยังสามารถปรับทิศทางและความสว่างของแสงได้ตามต้องการ แต่ไม่ได้มีความอ่อนนุ่มและอ่อนช้อยเหมือนกับม่านประเภทอื่น ๆ
การเลือก ผ้าม่าน สำหรับห้องต่าง ๆ
หนึ่งในหลักการเลือกผ้าม่านที่เหมาะสมและถูกใจ ก็คงจะหนีไม่พ้น รูปแบบการใช้งานของผ้าม่านที่เข้ากับห้องต่าง ๆ ภายในบ้าน เพราะเนื้อผ้าและสีสันของผ้าม่านก็จะส่งผลต่ออารมณ์ที่ต้องการภายในห้องนั่นเอง

ห้องรับแขก
ห้องรับแขก เป็นห้องที่สมาชิกในบ้านใช้ร่วมกันในการรับผู้มาเยือนและเป็นห้องที่ใช้ในสังสรรค์ของครอบครัว ต้องการความอบอุ่น สวยงาม และแสงที่มากหน่อย เพื่อให้ห้องดูกว้างขวางนั่นเอง ซึ่งเราก็ควรติดตั้งผ้าม่านที่มี 2 ชั้น อย่างผ้าโปร่งเพื่อรับแสงแดดตอนกลางวัน และผ้าม่านทึบเพื่อซ่อนสายตาจากคนภายนอกในตอนกลางคืน โดยอาจใช้เนื้อผ้าที่ให้ความรู้สึกนุ่มนวล และสีที่มีความสดใสมีชีวิตชีวา เพื่อเพิ่มความสนุกในการพูดคุยกับระหว่างคนในครอบครัว
ห้องนอน
ห้องนอน ถูกใช้เพื่อการพักผ่อน ทำให้สิ่งที่ควรคำนึงมากที่สุดในการเลือกผ้าม่านห้องนอน คงจะหนีไม่พ้น แสง ที่เล็ดลอดเข้ามา เราควรเลือกผ้าม่านที่มีการกันแสงและปิดบังสายตา เพื่อรักษาความเป็นส่วนตัวในขณะนอนหลับ ส่วนสีที่ใช้ก็ควรเป็นสีสันที่ไม่เข้มมากนัก เช่น สีเบจ สีขาว น้ำตาลอ่อน หรือสีเทาอ่อน เพื่อให้ไม่เหี่ยวเฉาจนเกินไป โดยคนส่วนมากนิยมใช้ผ้าม่านแบบ ม่านจีบ ม่านลอน ม่านพับ หรือม่านม้วนที่สามารถกันแสงได้ดี
ห้องอ่านหนังสือ และ ห้องทำงาน
ด้วยความที่ว่า ห้องทำงานและห้องอ่านหนังสือ เป็นสถานที่ที่ต้องใช้สมาธิมาก ดังนั้นการเลือกผ้าม่านสำหรับห้องนี้ก็ต้องใช้รูปแบบ สี และลายที่เรียบง่าย หรือไม่มีลายเลย เพื่อลดความวอกแวกในการทำงาน ไม่ควรใช้ผ้าม่านที่มืดทึบจนเกินไป เพื่อให้แสงลอดเข้ามาและมองเห็นได้ง่าย โดยอาจใช้มู่ลี่ ม่านม้วน หรือม่านพับ ที่สามารถปรับแสงได้สะดวกสบาย
และถ้าต้องการจัดห้องทำงานในบ้านให้มีพลัง ก็ลองเข้ามาอ่านบทความ สร้าง ห้องทำงานในบ้าน อย่างไรให้มี Energy
ห้องครัว และ ห้องรับประทานอาหาร
เนื่องจากทั้งสองห้องเป็นห้องที่ต้องใช้ในการทำอาหาร ซึ่งมีคราบสกปรกและคราบน้ำมันมากมาย ที่อาจลอยออกมาติดบริเวณผ้าม่านได้อย่างง่ายดาย และดูแลทำความสะอาดยากเย็น อีกทั้งยังต้องการแสงสว่างในการทำกิจกรรมต่าง ๆ ดังนั้นการติดตั้งผ้าม่านในบริเวณนี้จึงควรใช้วัสดุอื่น ๆ ที่ไม่ได้ทำจากผ้า อย่าง มู่ลี่อะลูมิเนียม หรือ มู่ลี่ไม้ ที่สามารถเช็ดออกง่ายกว่า รวมถึงยังมีแสงเข้ามาเยอะกว่า
การเลือก ผ้าม่าน ให้เหมาะกับเรา
นอกจากหลักการที่กล่าวไปด้านบนแล้ว ยังมีเทคนิควิธีการอีกมากมายที่จะช่วยให้เราสามารถเลือกผ้าม่านที่ถูกใจได้ง่ายยิ่งขึ้น ไม่ว่าจะเป็น สีที่ส่งผลต่อจิตวิทยาของเรา เนื้อผ้าที่แตกต่างกันสำหรับม่านแต่ละประเภท ความกว้างและสูงที่พอดีกับประตูและหน้าต่าง เฟอร์นิเจอร์ที่เข้ากับผ้าม่าน
แต่เหนือสิ่งอื่นใดหลักการเหล่านี้ก็ไม่ได้มีสิ่งที่ตายตัวเท่ากับการความชื่นชอบของตนเอง และความเหมาะสมของอสังหาริมทรัพย์แต่ละหลัง และถ้าคุณไม่มั่นใจในการเลือกผ้าม่านเหล่านี้ ก็ลองปรึกษาผู้เชี่ยวชาญและนักออกแบบที่น่าเชื่อถือได้ หรือจะลองค้นหาบ้านใน Kaidee Property ที่มีการตกแต่งเรียบร้อยแล้วก็เป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่ไม่เลวเลย