
ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าปี 2020 ที่ผ่านมา เราประสบกับสิ่งเลวร้ายมามากมาย ถึงแม้ว่าจะเป็นปีที่เหน็ดเหนื่อย แต่เราก็ได้เรียนรู้ และได้สร้าง New Routine ให้กับตัวเอง นอกจากนิสัยการสร้างสุขอนามัยที่ดี อย่างการสวมใส่หน้ากากอนามัย และการหมั่นล้างมือเป็นประจำ อีกหนึ่งปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้นในปีที่ผ่านมาซึ่งที่ไม่ว่าเพื่อนๆ จะอยู่ที่ใดในโลกต่างก็ประสบปัญหาเดียวกัน นั่นคือการกักตัวอยู่บ้านเพื่อลดความเสี่ยงของการติดโรคโควิด 19 หรือที่เราเรียกกันสั้นๆว่าการ “ควอรันธีน” (Quarantine) นั่นเอง ซึ่งนอกจากจะทำให้เราต้องติดแหง็กอยู่บ้านเป็นเดือนๆแล้ว ยังส่งผลกระทบต่อชีวิตประจำวันเราในหลายๆ ด้าน หนึ่งในนั้นคือลักษณะการทำงาน เพราะหลายๆคนต้องทำงานที่บ้านแทนการทำงานที่ออฟฟิศ ทำให้เทรนด์การสร้างบ้านแบบโฮมออฟฟิศนั้นเป็นที่นิยมอย่างมากในปีที่ผ่านมา
วันนี้ Kaidee ได้รวบรวม 5 โฮมออฟฟิศไอเดีย ที่จะช่วยเนรมิตบ้านเพื่อนๆ ให้กลายเป็นพื้นที่ทำงาน แต่ในขณะเดียวกันก็ไม่ทิ้งบรรยากาศ “โฮม” ซึ่งเป็นหัวใจของบ้านแบบโฮมออฟฟิศ ทั้งนี้เพื่อให้เพื่อนๆ รู้สึกเป็นอิสระ ผ่อนคลายไปบรรยากาศบ้าน แถมยังมีประสิทธิภาพการทำงานมากขึ้นด้วยสภาพแวดล้อมแบบออฟฟิศ รับรองว่าทั้ง 5 โฮมออฟฟิศดีไซน์นี้จะช่วยบูสต์ความคิดสร้างสรรค์ให้เพื่อนๆ กับเพื่อนร่วมงานได้อย่างไม่น่าเชื่อเลยค่ะ
เรามาเริ่มกันจากข้อดีของบ้านแบบโฮมออฟฟิศกันก่อนเลยดีกว่าค่ะ
ข้อดีของบ้านโฮมออฟฟิศ

หนึ่งในข้อดีที่เด่นที่สุดของการสร้างบ้านลักษณะโฮมออฟฟิศนั่นคือ พื้นที่ใช้สอยในบ้านที่มีการแบ่งพื้นที่เป็นสัดส่วนชัดเจน แตกต่างจากบ้านแบบทาวน์โฮมโดยสิ้นเชิง โฮมออฟฟิศโดยทั่วไปนั้นแบ่งสัดส่วนเป็น 2 พื้นที่ใหญ่ๆ คือ พื้นที่ทำงาน และพื้นที่พักอาศัย ดังนั้นบรรยากาศการทำงานในโฮมออฟฟิศก็จะค่อนข้างผ่อนคลาย และเป็นกันเองมากกว่าการทำงานในออฟฟิศปกติทั่วไป รวมไปถึงการแต่งตัว และ Culture ในการทำงานก็จะยืดหยุ่นมากขึ้นด้วย เพราะฉะนั้นการซื้อโฮมออฟฟิศ หรือการแต่งบ้านโดยแยกพื้นที่พักอาศัยกับพื้นที่ทำงานออกจากกันจึงเป็นที่นิยมอย่างมากในหมู่นักธุรกิจรุ่นใหม่ ที่มีไลฟ์สไตล์การทำงานที่ไม่สามารถระบุเวลาการทำงานที่ชัดเจนได้ บ้านลักษณะนี้เองยังเหมาะอย่างยิ่งสำหรับบริษัท start-up ที่เน้นความยืดหยุ่น และประสิทธิภาพในการทำงานมากกว่าความเป็นทางการในสถานที่ทำงาน
1. โฮมออฟฟิศ สไตล์มินิมอล (Minimal Home-Office)

ถ้าเพื่อนๆ จะเลือกตกแต่งห้องสักห้องในบ้านด้วยสไตล์มินิมอล ห้องนั้นควรเป็นห้องทำงานหรือไม่ก็ห้องนอน ในช่วงหลายๆปีที่ผ่านมา เทรนด์การตกแต่งบ้านแบบมินิมอลเป็นที่นิยมอย่างมาก เพราะแนวมินิมอลนั้นนอกจากจะทำให้บ้านเพื่อนๆ ดูโมเดิร์นแล้ว ยังมีประโยชน์อย่างมากต่อจิตใจผู้อาศัยอีกด้วย เพราะการที่ห้องมีความเป็นระเบียบด้วยการใช้เฟอร์นิเจอร์น้อยชิ้น จะสามารถช่วยลดความตึงเครียด ความโปร่งโล่งและสีที่สว่างของห้องจะช่วยลดอาการซึมเศร้า การตกแต่งที่เรียบง่ายจะทำให้เพื่อนๆ รู้สึกใจเย็น เป็นต้น
ดีไซน์โฮมออฟฟิศแบบมินิมอล จะเน้นการใช้เฟอร์นิเจอร์ชิ้นใหญ่เพียงไม่กี่ชิ้นแทนการวางเฟอร์นิเจอร์ชิ้นเล็กหลายๆชิ้น ทั้งนี้เพื่อให้ห้องไม่ดูรก และเพิ่มมิติให้ห้องดูพื้นที่มากขึ้น ส่วนในเรื่องของสีวอลล์เปเปอร์นั้นจะเน้นสีสว่าง เช่น สีขาว สีครีม หรือสีไม้อ่อนๆ เพราะสีเหล่านี้จะช่วยทำให้ห้องดูโอ่โถง ถ้าใครคิดว่าห้องแบบมินิมอลนั้นดูโล่งเกินไป เพื่อนๆ สามารถตกแต่งห้องด้วยต้นไม้เล็กๆตามมุมห้อง หรือใช้กรอบรูปสีโมโนโทนที่เข้ากับสีหลักของห้อง เพิ่มเติมได้ตามใจชอบได้เลยค่ะ
2. โฮมออฟฟิศ สไตล์ลอฟท์ (Loft Home-office)

ต้องยอมรับว่าไม่ใช่ทุกคนที่จะสนุกกับการทำงานในห้องโล่งๆ สำหรับคนบางคนแล้วการได้ทำงานในห้องที่เต็มไปด้วยของตกแต่งมากมายนั้น นำมาซึ่งไอเดียได้ดีกว่าการทำงานในห้องโปร่งโล่งซะอีก โฮมออฟฟิศดีไซน์ลอฟท์ (loft) หรือ อินดัสเทรียล ลอฟท์ (Industrial Loft) เป็นอีกหนึ่งดีไซน์ที่ได้รับความนิยมมากในกลุ่มคนรุ่นใหม่ สไตล์ลอฟท์เป็นการออกแบบที่ผสมผสานระหว่างดีไซน์โมเดิร์น และอินดัสเทรียลเข้าด้วยกันอย่างลงตัว ทำให้ผลลัพธ์ออกมาดูคูล บ่งบอกถึงตัวตนของผู้อาศัยที่ชัดเจน แถมยังคงความทันสมัย ถูกใจคนยุคใหม่นั้นเอง
หัวใจหลักของดีไซน์ลอฟท์ ไม่ว่าจะเป็นห้องนอนแบบลอฟท์ หรือโฮมออฟฟิศสไตล์ลอฟท์นั้น ได้แก่ ผนังปูนเปลือย และการโชว์การเดินท่อสายไฟบนเพดานค่ะ นอกจากดีไซน์ที่ดูเท่แล้ว การตกแต่งแบบลอฟท์ยังให้ประโยชน์เรื่องพื้นที่การใช้สอยอีกด้วย เนื่องจากดีไซน์นั้นจะมีเพดานสูง และมีผนังด้านใดด้านหนึ่งที่เปิดรับแสงธรรมชาติอย่างเต็มที่ สิ่งเหล่านั้นเองจะช่วยสร้างมิติให้ห้องดูใหญ่ขึ้น
เพื่อนๆสามารถเพิ่มความคูล แบบอินดัสเทรียลเข้าไปอีกด้วยการปูพื้นไม้ กับการใช้เฟอร์นิเจอร์โทนสีเข้มอย่างสีดำ หรือสีเทา เท่านี้ก็จะได้โฮมออฟฟิศที่ดูกว้างขวาง แถมยังเท่ไม่ซ้ำใคร
โฮมออฟฟิศสไตล์ลอฟท์เหมาะอย่างยิ่งสำหรับออฟฟิศที่เน้นการใช้ความคิดสร้างสรรค์ รับรองได้เลยว่าเพื่อนๆ กับทีมจะได้ไอเดียใหม่ๆไม่ขาดสายแน่นอน
3. โฮมออฟฟิศ สไตล์คัลเลอร์ฟูล (Colorful Home-Office)

ในโลกนี้มีคนอยู่ 2 ประเภท ประเภทแรกคือพวกที่เชื่อว่าการทำงานในที่โล่ง สะอาดๆจะช่วยสร้างสมาธิให้คิดงานออกมาได้ไว เนื่องจากไม่มีสิ่งรอบข้างคอยรบกวน ในขณะเดียวกันก็มีคนอีกกลุ่มหนึ่งที่เชื่อว่าสีสันสามารถช่วยทำให้เกิดไอเดียใหม่ๆ เพื่อนๆเชื่อหรือไม่ว่ามีผลวิจัยทางวิทยาศาสตร์มากมายที่ยืนยันว่า สีมีส่วนช่วยเรื่องประสิทธิภาพการทำงานของพนักงานออฟฟิศ เช่น สีเขียวจะช่วยให้ผ่อนคลาย สีเหลืองช่วยให้เราแอคทีฟ สีขาวช่วยเรื่องความคิดที่ละเอียดอ่อน และสีม่วงช่วยให้เกิดความคิดสร้างสรรค์
แต่ถ้าหากตกแต่งห้องด้วยการทาสีไปบนผนังห้องโดยตรง อาจจะทำให้ห้องทำงานของเพื่อนๆ ดูไม่แพง เสมือนห้องสำหรับเด็กเล็ก และที่สำคัญยังลดความน่าเชื่อถืออีกด้วย ดังนั้นควรจะเลือกสีห้องเรียบๆอย่างสีขาว หรือสีครีม และแนะนำให้เพื่อนๆ เล่นสีสันที่ตัวเฟอร์นิเจอร์ และของตกแต่งห้องทำงานของเพื่อนๆ แทน เช่น กรอบรูป แจกันดอกไม้ โคมไฟ เป็นต้น
เพื่อนๆ ยังสามารถเติมสีเขียวให้ห้องได้ง่ายๆ โดยการวางต้นไม้ ทั้งต้นเล็กและต้นใหญ่ตามมุมห้อง หรือตามขอบหน้าต่าง หรือแม้กระทั่งบนโต๊ะทำงาน เพื่อเพิ่มสีเขียวได้ง่ายๆเลยค่ะ
4. โฮมออฟฟิศ แบบโมเดิร์น (Modern Home-Office)

ถ้าเพื่อนๆ อ่านมาถึงตรงนี้ เพื่อนๆ คงมีไอเดียโฮมออฟฟิศมากมายในหัวแล้วใช่ไหมคะ ไม่ว่าจะเป็นการตกแต่งด้วยสีสันเอย สไตล์คูลๆแบบลอฟท์เอย หรือรักษาความเรียบง่ายแบบมินิมอล แต่ไม่ว่าจะเป็นดีไซน์แบบไหน สุดท้ายแล้วโฮมออฟฟิศของเพื่อนๆ ควรให้ความสะดวกสบายกับพนักงาน และสามารถใช้งานได้จริง
โมเดิร์นเป็นอีกดีไซน์ที่ยังคงความเรียบง่ายแบบมินิมอล แต่ในขณะเดียวกันก็ให้ความรู้สึกที่ทันสมัยแบบโมเดิร์น ด้วยใช้เฟอร์นิเจอร์รูปทรงเรขาคณิต และรักษาธีมของสีห้องเป็นหลักนั้นเอง
อีกหนึ่งเหตุผลที่แนวโมเดิร์นได้รับความนิยมอย่างมากนั้น เป็นเพราะว่าการตกแต่งสไตล์นี้เน้นการใช้งานได้จริงเป็นหลัก ตามหลักการ “Form Follows Function” โดยการออกแบบตัวห้องให้สะดวกสบายต่อผู้ใช้งาน และเน้นการจัดวางเฟอร์นิเจอร์และของตกแต่งเพียงน้อยชิ้น เพียงพอแค่การใช้งานค่ะ ถึงแม้ว่าสไตล์โมเดิร์นจะดูนิ่ง และไม่มีความยูนิคเท่าไรนัก แต่สไตล์นี้ก็มีความเป็นอมตะ ซึ่งไม่ว่าเวลาจะผ่านไปแค่ไหนก็ไม่ตกเทรนแน่นอน
5. โฮมออฟฟิศ แบบญี่ปุ่นร่วมสมัย (Contemporary Japanese Home-Office)

ดีไซน์แบบญี่ปุ่นร่วมสมัยจะเน้นการใช้ไม้เป็นหลัก ไม่ว่าจะเป็นที่ตัวผนังห้อง พื้น หรือแม้กระทั่งเฟอร์นิเจอร์ ซึ่งการตกแต่งด้วยไม้นั้น จะให้ความรู้สึกที่เงียบสงบ ผ่อนคลายได้เป็นอย่างดี อีกสิ่งหนึ่งที่บ่งบอกถึงสไตล์ญี่ปุ่นร่วมสมัยได้โด่ดเด่น นั่นก็คือการใช้เฟอร์นิเจอร์ชิ้นใหญ่ๆแต่น้อยชิ้น รวมถึงการใช้ประตู หน้าต่างบานใหญ่เพื่อต้อนรับแสงธรรมชาติแทนการใช้แสงจากโคมไฟค่ะ
การตกแต่งสไตล์นี้ จะใช้สีเพียงไม่กี่สีเท่านั้นนะคะ นั้นก็คือ สีไม้ สีน้ำตาล และสีดำ ซึ่งสีเหล่านี้เองล้วนเป็นสีเอิร์ธโทน ซึ่งจะเข้ากันได้ดีกับสีธรรมชาติของไม้ ซึ่งเป็นกุญแจหลักของการตกแต่งห้องสไตล์ญี่ปุ่นร่วมสมัยได้อย่างลงตัวค่ะ นอกจากนี้ตำแหน่งการวางเฟอร์นิเจอร์ก็เป็นเรื่องที่สำคัญมากๆ สำหรับการตกแต่งห้องสไตล์นี้ เราแนะนำให้เพื่อนๆวางเฟอร์นิเจอร์ชิ้นใหญ่เพียงแค่หนึ่งชิ้นไว้กลางห้อง ทั้งนี้เพื่อสร้างมิติให้ห้องดูโอ่โถงมากขึ้น และมีทางเดินมากขึ้นนั้นเอง
สรุปท้ายบทความ
บรรยากาศในที่ทำงานเป็นปัจจัยหลักๆที่ส่งผลต่อประสิทธิภาพการทำงานของพนักงาน ถ้าพื้นที่ทำงานของเพื่อนๆไม่เอื้ออำนวย ไม่ทำให้รู้สึกผ่อนคลาย และในขณะเดียวกันก็ไม่เหมาะสมสำหรับทำงาน สิ่งเหล่านั้นจะทำให้ความมุ่งหมั่นในการทำงานของเพื่อนๆน้อยลง เพื่อนๆจะใช้เวลาทั้งวันไปกับการจ้องหน้าปัดนาฬิกา เพื่อเคาท์ดาวน์เวลาเลิกงาน แทนที่จะทำงานนะคะ ดังนั้นเพื่อความสำเร็จในหน้าที่การงานแล้ว เริ่มมองจากจุดเริ่มต้น สิ่งที่เราทำงานด้วยทุกวัน ก็สำคัญนะคะ
หวังว่าบทความนี้จะช่วยให้เพื่อนๆ มีไอเดียใหม่ๆ ในการตกแต่งโฮมออฟฟิศให้น่าทำงานมากขึ้น ถ้าเพื่อนๆ สนใจอยากครอบครองโฮมออฟฟิศสักหลัง แต่ไม่รู้จะเริ่มศึกษาจากตรงไหน โฮมออฟฟิศแบบไหนที่เหมาะกับการทำงานของเพื่อนๆ เราขอแนะนำให้เริ่มจากที่เว็บ Kaidee ที่เว็บเรามีโฮมออฟฟิศหลากหลายรูปแบบ ให้เลือกมากมาย ทั้งมือหนึ่ง และมือสองเลยค่ะ