ปัจจุบันปฏิเสธไม่ได้เลยว่ากระแสการ “วิ่งเทรล (Trail Running)” เป็นกีฬายอดฮิตที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมากในบ้านเรา และอีกหนึ่งสิ่งที่หลายคนกำลังโหยหาหลังจากโควิดนั่นก็คือ “งานวิ่ง” ซึ่งสถานการณ์ ณ ตอนนี้ก็เริ่มกลับมามีท่าทีที่ดีขึ้น หลายงานกลับมาเปิดให้ลงแข่งขันอย่างเป็นทางการ บวกกับการเริ่มต้นเข้าฤดูหนาวที่นับว่าเป็นฤดูที่เหมาะสมอย่างยิ่งสำหรับการวิ่งเทรล
ถ้าหากว่าคุณเป็นหนึ่งคนที่กำลังสนใจกีฬาประเภทนี้อยู่และมีความท้าทายอยากจะลองสัมผัสและหันมาวิ่งดูบ้าง วันนี้เราจึงได้รวบรวมข้อมูลของการวิ่งเทรลมาแบ่งปัน เพื่อให้คุณได้ศึกษาเริ่มต้นออกวิ่งได้อย่างถูกวิธี และได้รับประสบการณ์อันแปลกใหม่ในการวิ่งที่แตกต่างจากการวิ่งธรรมดาทั่วไปอย่างแน่นอน
วิ่งเทรลคืออะไร ? มาทำความรู้จักไปพร้อมกัน
วิ่งเทรล (Trail Running) คือ การวิ่งในระยะทางไกลบนเส้นทางธรรมชาติที่ประกอบไปด้วยป่าเขา ลำธาร ทุ่งหญ้า ตามภูมิประเทศของสถานที่จัดงานที่แตกต่างกันออกไป โดยมีการกำหนดเวลาเพื่อการแข่งขันและมีระยะทางบวกกับความชัน (Gain) เป็นองค์ประกอบ

ซึ่งการวิ่งเทรลจะมีความแตกต่างจากการวิ่งในลู่สนาม การวิ่งในเมือง หรือตามสวนสาธารณะ เพราะสถานที่เหล่านี้จะมีลักษณะของพื้นผิวที่เรียบไม่มีความชัน และมีความหลากหลายน้อยกว่าการวิ่งเทรล ที่สำคัญการวิ่งเทรลนั้นไม่ได้ใช้แค่การวิ่งเพียงอย่างเดียว เพราะจะต้องใช้สายตาและความคิดในเรื่องของการวางแผนที่จะต้องวางเท้าหลบหลีกสิ่งกีดขวางต่างๆ และต้องมีการแบ่งพละกำลังในการวิ่งระยะยาวเพื่อไม่เป็นการใช้แรงจนหมด เพราะถ้าเจอเส้นทางเรียบเราก็ควรจะวิ่ง แต่ถ้าเจอทางสูงชันเราควรจะค่อยๆ เดินขึ้นไป รวมถึงยังต้องใช้ความยืดหยุ่นของร่างกายและความคล่องตัวสูง
ดังนั้นเหล่านักวิ่งควรวางแผนการฝึกซ้อมให้ดี และเน้นฝึกกล้ามเนื้อให้มีความแข็งแรงเป็นพิเศษจึงทำให้การวิ่งเทรลจึงเป็นกีฬาที่ใครหลายคนต้องการที่จะพิชิตให้ได้สักครั้งหนึ่งในชีวิต และยังเป็นกีฬาอีกหนึ่งทางเลือกสำหรับผู้คนที่ต้องการหาประสบการณ์ใหม่ๆ หลีกหนีความวุ่นวายในเมืองหลวง และพาตัวเองออกไปวิ่งท่ามกลางธรรมชาติที่อุดมสมบูรณ์
สิ่งที่ต้องศึกษาก่อนวิ่งเทรล
ศึกษาระยะทาง
งานเทรลจะมีระยะทางเหมือนงานวิ่งถนนทั่วไป ซึ่งมีตั้งแต่ 10 กิโลเมตร ไปจนถึง 100 กิโลเมตร แต่เมื่อเทียบระยะทางระหว่างวิ่งเทรลกับงานวิ่งมาราธอนทั่วไปแล้ว ระยะทางของการวิ่งเทรลจะแอบซ่อนความเซอร์ไพรส์ของจำนวนกิโลเมตรที่มีจำนวนระยะเกินเสมอ
เพราะลักษณะภูมิประเทศของแต่ละพื้นที่นั้นมีความแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง ทั้งความชัน และทางลาด บางสนามจึงมีระยะทางที่อาจเกินหรือขาด ดังนั้นจึงต้องมีการวางแผนการฝึกซ้อมให้เกินระยะทางที่กำหนด หรือสามารถยืนระยะให้ได้มากกว่าระยะที่เราได้ลงสมัครไว้ เช่น หากเราลงสมัครระยะ 10 กิโลเมตร ควรจะต้องมีการฝึกซ้อมและสามารถวิ่งได้ในระยะ 15 กิโลเมตร เป็นต้น
นอกจากนี้ยังต้องศึกษาระยะทางและจุดสำคัญต่างๆ ในเส้นทางของรายการที่เราได้ลงสมัครไว้ เพราะแต่ละสนามจะมีรูปแบบเส้นทางที่แตกต่างกันออกไป การเตรียมตัวศึกษาหาข้อมูลเตรียมพร้อมก่อนการแข่งขันจะมีประโยชน์แก่ตัวเองเป็นอย่างมาก

ศึกษาความชัน
ขึ้นชื่อว่าวิ่งในป่าและภูเขา สิ่งที่ต้องเจอและหลีกเลี่ยงไม่ได้ก็คือ “ความชัน” ที่แต่ละสนามการแข่งขันจะมีความชันของพื้นที่ที่แตกต่างกัน ขึ้นอยู่กับความโหดของสนามนั้นๆ ซึ่งเราจะเรียกความชันนี้ว่า “Elevation Gain” หมายถึงความชันสะสมที่เราต้องวิ่งขึ้นเขาไปเรื่อยๆ บนเส้นทาง ยกตัวอย่างเช่น Gain 1000 ระยะทาง 20 กิโลเมตร กับ Gain 1000 ระยะทาง 10 กิโลเมตร นั้นหมายความว่า ความชันที่ 10 กิโลเมตรจะมีมากกว่าและส่งผลทำให้วิ่งยากกว่าแน่นอน
ดังนั้นการศึกษาความชันจึงเป็นสิ่งที่ควรรู้ว่าเราจะสามารถจัดการกับตัวเองอย่างไร วางแผนวิ่งแบบไหน ช่วงไหนที่ควรเดินเพื่อรักษาพลังงานของร่างกาย ซึ่งในแผ่นหมายเลขประจำตัว (BIB) มักจะมีกราฟแสดงเส้นทางของความสูงชันของพื้นที่ ที่นักวิ่งหลายคนมักละเลยจุดนี้ไปแล้วอาจทำให้ตกม้าตายในหน้างานได้ เพราะฉะนั้นนักวิ่งควรฝึกอ่านกราฟให้เป็นนิสัยเพื่อจะได้รู้ว่าตัวเองควรวิ่งอย่างไรให้กลับมาถึงเส้นชัยโดยที่ไม่หมดแรงเสียก่อน

ศึกษาช่วงเวลาของแต่ละงาน
ปัจจุบันนี้งานวิ่งเทรลในประเทศไทยแทบจะมีรายการแข่งขันเกือบทุกฤดูกาล ก่อนที่จะเลือกลงสมัครแข่งขันแต่ละสนามควรศึกษาดูสภาพอากาศ ภูมิประเทศ สภาพสนาม และความยากง่ายว่าอยู่ในระดับไหน หากเลือกสมัครงานที่จัดในช่วงฤดูร้อนก็จะเป็นอุปสรรคในเรื่องของอากาศที่ร้อน หาเลือกสมัครในรายการที่จัดช่วงฤดูฝนก็จะพบกับสภาพเส้นทางที่เละเปียกเฉอะแฉะ หรือรายการแข่งขันที่จัดช่วงฤดูหนาวก็จะพบกับอากาศที่หนาวเย็น
เมื่อศึกษาสภาพสนามของรายการแข่งขันแล้ว การเลือกรองเท้าให้เหมาะกับลักษณะพื้นผิวก็มีความสำคัญเป็นอย่างมาก โดยสนามเทรลส่วนใหญ่เป็นเส้นทางธรรมชาติที่มีทั้งดิน หิน โคลน ทราย ตลอดไปจนถึงลำธารที่มีน้ำไหลผ่าน ซึ่งรองเท้าวิ่งเทรลส่วนใหญ่ถูกออกแบบมาเพื่อพิชิตอุปสรรคเหล่านี้ สังเกตได้ง่ายๆ จากพื้นรองเท้าที่จะมีปุ่มไว้สำหรับยึดเกาะพื้นดิน ความลึกตื้นของพื้นก็มีผลแตกต่างกัน ยิ่งพื้นลึกมากก็จะสามารถยึดเกาะได้ดี ซัพพอร์ตมากขึ้นแต่ก็ต้องแลกมาด้วยน้ำหนักที่ค่อนข้างมาก สำหรับพื้นตื้นจะให้การยึดเกาะที่น้อยลงตามลำดับ จัดเป็นรองเท้าประเภททำความเร็วที่ได้ความคล่องตัวมาเป็นข้อแลกเปลี่ยน

ศึกษาอุปกรณ์สำหรับวิ่งเทรล
อุปกรณ์สำหรับวิ่งเทรลนั้นมีมากมายหลายแบบ เพื่อช่วยอำนวยความสะดวกในการวิ่ง เพราะการวิ่งเทรลจะต้องอาศัยการช่วยตัวเองเป็นหลักอยู่แล้ว ด้วยสภาพการวิ่งที่ส่วนใหญ่เส้นทางอยู่ในป่าเขา และมีจุดบริการอาหารและเครื่องดื่มที่อยู่ห่างกันเกือบ 10 กิโลเมตร นักวิ่งจึงต้องมีการเตรียมตัวและตุนอาหาร น้ำดื่มไว้อย่างเพียงพอสำหรับจุดบริการจุดต่อไป ซึ่งแตกต่างจากการวิ่งมาราธอนบนท้องถนนที่จะมีจุดบริการน้ำดื่มและเกลือแร่ทุกๆ 2 กิโลเมตร ดังนั้นนักวิ่งจึงต้องศึกษาแผนที่และคำแนะนำของแต่ละสนามไว้ก่อนเพื่อเตรียมความพร้อมก่อนออกวิ่ง
โดยอุปกรณ์หลักๆ สำหรับการวิ่งเทรล ได้แก่ เป้น้ำ, Trekking Pole, ไฟฉายคาดหัว, รองเท้าสำหรับวิ่งเทรล, และอื่นๆ อีกมากมายที่จำเป็นต่อการวิ่งเทรล นอกจากนั้นแต่ละสนามการแข่งขันยังมีการระบุอุปกรณ์บังคับที่เหล่านักวิ่งจะต้องมี เช่น เป้น้ำ เพื่อให้นักวิ่งไว้สำหรับตุนน้ำดื่มเนื่องจากจุดให้บริการนั้นอยู่ห่างกัน, ไฟฉายคาดหัว เนื่องจากบางสนามต้องเริ่มปล่อยตัวนักวิ่งในเวลากลางคืน หรือเช้ามืด, Trekking Pole ไว้สำหรับสนามที่มีความชันสูงเพื่อให้สามารถใช้พยุงร่างกายได้บนทางชันและทางลาด รวมถึงยาประจำตัวไว้สำหรับเกิดเหตุฉุกเฉิน

ศึกษาค่าใช้จ่ายของแต่ละรายการ
ส่วนใหญ่แล้วค่าสมัครงานวิ่งเทรลของแต่ละรายการนั้นจะมีค่าใช้จ่ายที่ค่อนข้างสูงกว่ารายการวิ่งมินิมาราธอน หรือมาราธอนตามท้องถนน เนื่องจากต้องใช้เจ้าหน้าที่และผู้ที่มีความชำนาญในการจัดเส้นทางการแข่งขัน และตำแหน่งของจุดบริการที่มีเป็นจำนวนมาก รวมไปถึงการดูแลความปลอดภัยของเหล่านักวิ่งในแต่ละระยะ
ซึ่งค่าใช้จ่ายสำหรับการสมัครแต่ละรายการจะเริ่มต้นประมาณ 1,000-6,000 บาท ขึ้นอยู่กับระยะทางที่เราเลือกลงแข่งขัน อีกทั้งยังมีค่าใช้จ่ายในเรื่องของที่พัก ค่าเดินทาง อาหารต่างๆ เนื่องจากรายการวิ่งเทรลส่วนใหญ่จะจัดที่ต่างจังหวัดเป็นหลักอยู่แล้ว จึงทำให้มีค่าใช้จ่ายที่มากกว่ารายการมาราธอนในกรุงเทพฯ
สรุป
สุดท้ายแล้วสิ่งที่เราได้แนะนำไปเป็นเพียงแค่องค์ประกอบรองเท่านั้น เพราะสิ่งที่สำคัญที่สุดคือเรื่องของความอดทนและกำลังใจ เพราะระหว่างทางเราต้องผ่านการฝึกซ้อมมาเป็นแรมปีที่ต้องมีวินัยเป็นอย่างสูง และเมื่อเราได้ผ่านการวิ่งเทรลมาสักรายการหนึ่ง ถึงแม้อาจจะไม่ได้ถ้วยรางวัล แต่คุณก็จะเข้าใจได้ว่ารสชาติของความสำเร็จมันหอมหวานและคุ้มค่าที่เราได้ทำมันสำเร็จ
สำหรับใครที่อ่านจบแล้วและมีความสนใจในการวิ่งเทรล สามารถเข้ามาเลือกซื้ออุปกรณ์วิ่งเทรล เช่น รองเท้าวิ่ง เป้น้ำ และอื่นๆ อีกมากมายได้ที่ Kaidee แหล่งซื้อขายของออนไลน์ที่มีสินค้าให้คุณเลือกซื้ออีกเพียบ