10 อันดับรุ่น Oppo ใช้รุ่นไหนดีที่สุด?

10 อันดับรุ่น Oppo ใช้รุ่นไหนดีที่สุด?

สมาร์ทโฟนได้กลายเป็นอีกหนึ่งปัจจัยในการชีวิตของมนุษย์ในปัจจุบัน และด้วยเทคโนโลยีที่พัฒนาให้ดีขึ้นอยู่ตลอดเวลา ทำให้สมาร์ทโฟนถูกพัฒนาตามจนมีฟังก์ชันและฟีเจอร์ที่สร้างความสะดวกให้กับผู้ใช้มากมาย 

และตลาดสมาร์ทโฟนตอนนี้มีแบรนด์ที่กลายมาเป็นที่นิยมเพิ่มขึ้นหลากหลายแบรนด์นอกจาก Apple และ Samsung  ซึ่งหนึ่งในนั้นก็คือ Oppo นั่นเอง

Oppo สมาร์ทโฟนแบรนด์จีนน่าใช้

Oppo เริ่มก่อตั้งแบรนด์ที่ประเทศจีนตั้งแต่ปี 2001 และเริ่มเข้าสู่ตลาดมือถือในปี 2008 ด้วยวิสัยทัศน์ของบริษัทที่ตั้งมั่นว่าจะเป็นบริษัทที่ยั่งยืนและทำโลกให้ดีขึ้น ทำให้สมาร์ทโฟน Oppo มีนวัตกรรมที่โดดเด่นมากมาย

จุดเด่นของสมาร์ทโฟน Oppo

Oppo เป็นแบรนด์สมาร์ทโฟนแบรนด์แรกที่มีกล้องหน้าความละเอียดสูงถึง 5 ล้านพิกเซล และ 16 ล้านพิกเซล รวมถึงนวัตกรรมโหมดเซลฟี่หน้าเนียนยอดฮิตที่สาวๆชื่นชอบ และเทคโนโลยีชาร์จเร็วสุดล้ำ Super Vooc ซึ่งนวัตกรรมสุดล้ำต่างๆนี้ถูกใส่มาในสมาร์ทโฟนของ Oppo และด้วยราคาที่จับต้องได้ ไม่ต้องกัดฟันซื้อ ทำให้สมาร์ทโฟน Oppo เป็นที่นิยมและมีส่วนแบ่งการตลาดด้านสมาร์ทโฟนสูงขึ้นเรื่อยๆ 

10 อันดับรุ่น Oppo 

กว่า 10 ปีที่ Oppo อยู่ในตลาดสมาร์ทโฟน ทำให้มีนวัตกรรมและเทคโนโลยีใหม่ๆเกิดขึ้นมากมาย รวมถึงรุ่นของสมาร์ทโฟนที่หลากหลายตามด้วยเช่นกัน เราจัด 10 อันดับรุ่นน่าใช้มาแนะนำ ตามนี้เลย 

1.Oppo A92

เริ่มด้วยสมาร์ทโฟนตระกูล A Series กับ Oppo A92 ที่มีดีไซน์สุดทันสมัย พร้อมมี 3 สีให้เลือก ตัวเครื่องมีน้ำหนักเบา (ประมาณ 170 กรัม) หน้าจอขนาดใหญ่ถึง 6.5 นิ้ว ซึ่งตัวจอยังมีความละเอียดแบบ 1080p Neo-Display  ถือว่าใหญ่จุใจดูหนังหรือซีรีส์ได้แบบฟินๆ

 กล้องหลังของรุ่นนี้เป็นแบบ Quad Camera หรือกล้อง 4 ตัว ประกอบด้วย กล้องหลัก กล้อง Ultra-Wide กล้อง Portrait และกล้อง Monochrome ซึ่งกล้องหลักจะมีความละเอียดที่ 48MP  8MP สำหรับกล้อง Ultra-Wide 2MPสำหรับกล้อง Portrait และ 2MP สำหรับกล้อง Monochrome 

การถ่ายรูปยังมีโหมด Beauty ปรับหน้าเนียนสวย โหมด Portait สำหรับถ่ายภาพบุคคลแบบหน้าชัดหลังเบลอ และโหมดถ่ายภาพกลางคืน Ultra Night Mode 2.0 ส่วนการถ่ายวีดีโอยังสามารถถ่ายได้ในความละเอียดที่สูงถึงระดับ 4K 30fps และยังมีโหมดกันภาพสั่นอีกด้วย ดังนั้นเรื่องการถ่ายภาพและวีดีโอของรุ่นนี้ถือว่าทำได้ครบครันทีเดียว

Oppo A92 นี้มาพร้อมหน่วยประมวลผล Snapdragon 655 แรม 8 GB และรอม 128 GB ไม่ว่าจะเล่นเกมหรือดูหนังก็ทำได้แบบลื่นๆ และยิ่งมีแบตเตอรี่ 5,000 mAh ยิ่งทำให้ใช้งานได้ยาวๆ และหากแบตใกล้หมดละก็ยังมีระบบชาร์จไว 18w ทำให้ไม่ต้องรอชาร์จนานๆแล้ว 

ดังนั้นรุ่นนี้ถือว่าคุ้มค่ามากๆในราคาหนึ่งหมื่นมีทอน แต่ได้สเปคแน่นประสิทธิภาพดี ใช้งานได้ยาวๆ 

2.Oppo Find X2 Pro

สมาร์ทโฟนเรือธงของ Oppo ที่เคลมว่ามีหน้าจอที่ดีที่สุด ด้วยจอแบบ Amoled 6.7 นิ้ว ที่มีค่า Refresh Rate 120Hz ทำให้การแสดงภาพมีความสมูทมากขึ้น รวมถึงการเล่นเกมที่ต้องพึ่งความไวของการแสดงผลภาพก็จะเล่นได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น และที่สำคัญยังมีระบบ AI Adaptive Eye Protection ที่ปรับการแสดงผลในหน้าจอทั้งโทนสีและความสว่างให้ดูได้อย่างสบายตามากยิ่งขึ้น 

ด้านการรับชมความบันเทิง ตัวเครื่องยังมีลำโพงคู่บน-ล่างแบบ Stereo ในระบบ Dolby Atmos และยังมีระบบO1 Ultra Vision Engine ที่ช่วยประมวลผลให้ภาพในวีดีโอมีคุณภาพดีขึ้น ทำให้เต็มอิ่มกับการดูหนัง ฟังเพลงได้อย่างมีอรรถรสมากยิ่งขึ้น

เรื่องกล้องก็ยังถือว่าโดดเด่นด้วยกล้องสามตัว โดยกล้องหลักมีความละเอียด 48MP กล้อง Ultra-wide ความละเอียด 48MP และกล้อง Periscope Telephoto 13MP ทำให้ได้ภาพหลากหลายระยะ นอกจากนี้ยังมี Ultra Night Mode 3.0 ที่ช่วยให้ถ่ายภาพในที่แสงน้อยได้ดีขึ้น 

Oppo Find X2 Pro มาพร้อมหน่วยประมวลผล Qualcomm Snapdragon 865 แบบ 4 Core มีแรม 12 GB และ รอม 512 GB เรียกได้ว่าสบายใจจากเรื่องเครื่องอืดเล่นเกมหน่วงได้เลย และตัวแบตเตอรี่ยังมีความจุ 4,260 mAh พร้อมรองรับชาร์จเร็ว 65W อีกด้วย ดังนั้นสรุปแล้วหากใครมีงบถึงอยากลงทุนกับสมาร์ทโฟน Oppo เราแนะนำรุ่นนี้เลย 

3.Oppo Reno4 Z 5G

สมาร์ทโฟนระดับกลางที่รองรับ 5G พร้อมมี Refresh Rate 120Hz และยังมีกล้องหน้าคู่ ถือว่าสเปคจัดเต็มสไตล์ Oppo จริงๆ ซึ่งรุ่นนี้มาพร้อมหน่วยประมวลผล MediaTek Dimensity 800 แบบ 4 Core แรม 8GB รอม 128GB แบตเตอรี่ความจุ 4000 mAh 

กล้องหลัง 4 ตัว ที่ให้คุณถ่ายภาพได้หลากหลายมุม ทั้งมุมปกติ มุมกว้าง หรือจะถ่าย Portrait โดยกล้องหลักมีความละเอียดสูงถึง 48MP ส่วนกล้องหน้าคู่ก็มีความละเอียด 16MP ในกล้องหลักและ 2MP ในกล้องรอง การถ่ายวีดีโอยังมีโหมด Beauty ปรับหน้าสวย ถ่ายแบบหน้าชัดหลังเบลอ และยังปรับในสไตล์การถ่ายแบบภาพยนต์ได้ถึง 10 แบบ เมื่อถ่ายเสร็จยังสามารถตัดต่อในเครื่องได้อีกด้วย 

แบตเตอรี่ 4,000 mAh พร้อมรองรับชาร์จเร็ว 18W พร้อมพอร์ทเชื่อมต่อแบบ USB-C และยังมีช่องเสียบหูฟังอีกด้วย ตัวเครื่องมีให้เลือก 2 สีคือ ขาว Dew White และดำ Ink Black ซึ่งสเปคนี้มาในราคาหมื่นต้นๆถือว่าคุ้มค่าต่อการใช้งานมาก

4.Oppo Reno4 Pro 5G

สมาร์ทโฟนตระกูล Reno Series รุ่นใหม่ที่โดดเด่นเรื่องการถ่ายภาพและวีดีโอ เริ่มด้วยดีไซน์ที่บางทำให้จับง่ายและผิวสัมผัสหลังเครื่องยังเป็นแบบ Reno Glow ที่ป้องกันการขีดข่วนและยังมีความสวยงามระยิบระยับเบาๆ พร้อมหน้าจอ OLED ขนาด 6.5 นิ้ว ที่มี Refresh Rate 90Hz

จุดเด่นของรุ่นนี้คือเรื่องการถ่ายวีดีโอระดับมืออาชีพด้วยหนึ่งในกล้องสามตัวที่มีเซ็นเซอร์จาก Sony ความละเอียด 12MP และ Ultra Night Wide-angle Video ที่ทำให้ได้วีดีโอที่คมชัดในทุกสภาวะแสง  Live HDR ที่ปรับแสงให้แม่นยำมากขึ้นเมื่อแสงน้อย ที่สำคัญคือมีโหมด Ultra Steady Video 3.0 ในกล้องหลัง และ Ultra Steady ในกล้องหน้า ทำให้ภาพวีดีโอของคุณนิ่งและสมูทมากขึ้น และยังสามารถใส่ฟิลเตอร์เวลาถ่ายวีดีโอ และตัดต่อผ่านแอป Soloop ได้อีกด้วย 

Oppo Reno4 Pro 5G มาพร้อมหน่วยประมวลผล Qualcomm Snapdragon 765G ที่รองรับสัญญาณ 5G ความเร็วสูง ตัวเครื่องมีแบตเตอรี่ความจุ 4,000 mAh พร้อมระบบชาร์จไว 65W SuperVOOC 2.0 ดังนั้นหากใครสายวิดีโอ ตัวนี้ถือว่าตอบโจทย์

5.Oppo Find X2

หากใครที่อยากประหยัดเงินจากรุ่น X2 Pro แต่อยากได้สเปคที่อัดแน่นอยู่ละก็ รุ่น X2 ที่ออกมาคู่กันนี้ก็เป็นตัวเลือกที่เหมาะมากสำหรับคุณ ด้วยความที่เป็นรุ่นเดียวกันแต่ต่างกันที่ความ Pro เราจะพูดถึงเฉพาะสิ่งที่แตกต่างจากรุ่น X2 Pro ให้คุณได้เห็นภาพชัดเจน

สิ่งที่แตกต่างกันอย่างแรกคือกล้องหลังสามตัวที่มีเซ็นเซอร์ต่างกัน โดยกล้องหลักของรุ่น X2 จะเป็น Sony IMX586 ส่วนรุ่น Pro จะเป็น Sony IMX689 กล้อง Ultra Wide ของรุ่น X2 จะเป็นเซ็นเซอร์ Sony IMX 708 ส่วนรุ่น Pro จะเป็น Sony IMX586 ส่วนกล้องตัวสุดท้ายของ X2 จะเป็นกล้อง Telephoto ปกติ แต่รุ่น Pro จะเป็นแบบ Periscope

ต่อมาคือเรื่องของมาตรฐานการกันน้ำและฝุ่นที่รุ่น X2 จะอยู่ในมาตรฐาน IP54 ส่วนรุ่น Pro จะอยู่ที่มาตรฐาน IP68 โดย IP54 นั้นจะสามารถกันน้ำแบบละอองและฝุ่นได้บ้าง แต่ไม่สามารถกันน้ำเข้าแบบเอาโทรศัพท์จุ่มน้ำได้  และต่อมาคือแบตเตอรี่ที่น้อยกว่ารุ่น Pro เพียง 60 mAh ซึ่งอาจไม่มีความแตกต่างมากนัก 

ความต่างที่เด่นๆสุดท้ายคือความจุในรุ่น X2 มีให้ 256GB ส่วนรุ่น Pro มีให้ถึง 512GB ดังนั้นหากใครต้องการความจุที่มากขึ้นก็แนะนำรุ่น Pro แต่หากไม่ได้ซีเรียสเรื่องกล้อง การกันน้ำกันฝุ่น ก็สามารถเลือกรุ่น X2 ได้เลย แถมยังประหยัดได้อีกหลายพันด้วย

6.Oppo Reno4

สมาร์ทโฟนจอ AMOLED ขนาด 6.4 นิ้ว มาพร้อมหน่วยประมวลผล Qualcomm Snapdragon 720G Octa Core และแบตเตอรี่ 4,015 mAh รองรับระบบชาร์จเร็ว 30W 

จุดเด่นอย่างแรกของรุ่นนี้คือ AI Enhanced Smart Sensor ที่มี Smart AirControl ทำให้สามารถสไลด์หน้าจอหรือรับโทรศัพท์ด้วยการปัดมือแบบไม่ต้องสัมผัสหน้าจอ และ Smart Spying Prevention ที่สามารถปิดข้อข้อความแจ้งเตือนอัตโนมัติ เมื่อมีสายตาผู้อื่นจ้องมองมาที่จอ 

ความอัจฉริยะของ AI ใน Reno4 นี้ยังเพิ่มความสามารถให้กับกล้อง ด้วย AI Color Portrait ทำให้ได้ภาพถ่ายบุคคลที่มีพื้นหลังเป็นขาวดำ และตัวบุคคลในภาพมีสีสันที่โดดเด่นชัดเจน และ 960fps AI Slow-motion ที่ทำให้ถ่ายวีดีโอแบบ Slowmotion ได้อีกด้วย 

ด้วยความอัจฉริยะที่ AI มี ทำให้ Reno4 นี้เป็นอีกรุ่นที่น่าสนใจในราคาหมื่นต้นๆ ที่มาพร้อมสเปคที่ใช้งานก็ได้ เล่นเกมก็ดี 

7.Oppo Reno3 Pro

สมาร์ทโฟนจอ AMOLED ขนาด 6.4 นิ้วที่สามารถแสดงผลแบบ HDR 10+ ได้ และมาพร้อมหน่วยประมวลผล Mediatek Helio P95 แบบ 4 Core แรม 8GB รอม 128GB หรือ 256GB และยังใส่ MicroSD Card เพิ่มได้สูงสุด 256GB ถือว่านำมาใช้งานด้านความบันเทิงโดยเฉพาะเล่นเกมหรือดูหนังได้สบายๆ 

เช่นเดียวกับรุ่นที่กล่าวมาด้านบน เรื่องกล้องนั้น Oppo จัดเต็มให้ทุกรุ่นจริงๆ กล้องหลัง 4 ตัวที่เก็บได้ทั้งมุมกว้างหรือถ่ายแบบ Portrait และยังมีโหมดการถ่ายเวลากลางคืน หรือโหมด Pro ที่สามารถปรับตั้งค่าการถ่ายรูปต่างๆได้ ส่วนกล้องหน้านั้นมาเป็นกล้องคู่ที่กล้องหลักมีความละเอียดสูงถึง 44MP ชัดสุดๆ แต่ไม่ต้องกลัวเพราะยังมีโหมดบิวตี้ปรับหน้าสวยได้อีกด้วย

ในรุ่นนี้ให้แบตเตอรี่มาที่ความจุ 4,025 mAh ใช้งานได้ยาวนาน และที่สำคัญยังมีช่องเสียบหูฟัง 3.5mm และมีพอร์ทชาร์จแบบ USB-C ที่รองรับชาร์จเร็ว 30W ซึ่งโดยรวมแล้วถือเป็นอีกรุ่นหนึ่งที่แม้จะไม่ได้เป็นเรือธงของ Oppo แต่ก็มีความแรงและประสิทธิภาพดีคุ้มราคาจริงๆ 

8.Oppo A53

สมาร์ทโฟนแบตอึดที่มาในราคาที่คุ้มสุดคุ้ม ด้วยหน้าจอ 6.5 นิ้ว Refresh Rate 90 Hz และมีหน่วยประมวลผล Qualcomm Snapdragon 460 แบบ 4 Core 

จุดเด่นที่สำคัญของรุ่นนี้คือแบตเตอรี่ที่ให้ความจุมาถึง 5,000 mAh แล้วยังสามารถชาร์จเร็วได้แบบ 18W ซึ่งเมื่อใช้งานจนแบตเตอรี่ใกล้หมด ตัวเครื่องยังมีระบบ Super Power Saving Mode ที่ช่วยประหยัดพลังงานสุดๆ เพื่อยืดระยะเวลาการใช้งานให้ยาวนานขึ้น

อีกจุดหนึ่งที่โดดเด่นคือลำโพง Stereo คู่ที่ให้เสียงที่มีมิติมากยิ่งขึ้น รวมถึงกล้องหลังสามตัวที่ทำให้ได้ภาพมุมปกติ แบบ Macro และแบบ Portrait ซึ่งสเปคและฟีเจอร์ทั้งหมดนี้ใน Oppo A53 ถือว่าคุ้มค่ามากๆ ในราคาครึ่งหมื่น ใครที่งบจำกัดแต่ต้องการสเปคดีๆแนะนำรุ่นนี้เลย

9.Oppo A12

อีกหนึ่งรุ่นในตระกูล A Series น้องเล็กสเปคคุ้ม ด้วยตัวเครื่องที่เบา บาง และมีหน้าจอแบบ Waterdrop Display ขนาด 6.22 นิ้วที่มี Bluelight Shield ช่วยปกป้องสายตาคุณจากแสงสีฟ้าและอาการเมื่อยล้า แถมยังสามารถปลดล็อคเครื่องผ่านการสแกนลายนิ้วมือหรือสแกนใบหน้าได้อีกด้วย

เรื่องการใช้งานถือว่าใช้งานได้ปกติ ด้วยหน่วยประมวลแบบ Mediatek Helio P35 แบบ 4 Core ที่ทำความเร็วได้สูงถึง 2.3GHz ส่วนแรมจะมีทั้ง 3 และ 4GB รอมก็จะมี 32 และ 64GB เช่นกัน สามารถเพิ่มหน่วยความจำผ่าน Micro SD Card ได้สูงสุด 256GB ดังนั้นจะเล่นเกมหรือดูหนังฟังเพลงก็ใช้งานได้ดี

ส่วนกล้องนั้นมาเป็นกล้องคู่ที่มีความละเอียด 13MP และ 2MP กล้องหน้าความละเอียด 5MP ที่สามารถถ่ายแบบ HDR ได้ ซึ่งโดยรวมสำหรับรุ่นนี้นั้น ในราคา 5 พันมีทอน ถือว่าเป็นอีกรุ่นที่คุ้มค่าและใช้งานได้ดี

10.Oppo Reno 10x Zoom

สมาร์ทโฟนหน้าจอ 6.6 นิ้วแบบเต็มจอไร้รอยบาก ที่แม้จะออกมาเมื่อปี 2019 แต่สเปคยังแรงและใช้งานได้ดีอยู่ โดยมีจุดเด่นที่น่าสนใจมากมาย 

เริ่มที่กล้องสามตัวที่มีทั้งเลนส์ Tele และ Wide Angle โดยในกล้องหลักจะใช้กล้องแบบ Ultra Clear Sony IMX 586 ความละเอียด 48MP ทำให้ได้ภาพที่คมชัด ซึ่งในกล้องหลังจะมีระบบป้องกันภาพสั่นไหวแบบคู่ (Dual OIS) และยังมีความยาวโฟกัส 16-160 มม. ทำให้ได้ภาพหลายระยะ และสามารถซูมใกล้ได้ถึง 10 เท่า 

ส่วนกล้องหน้าจะถูกซ่อนไว้อย่างแนบเนียน เมื่อเปิดกล้อง ส่วนของกล้องหน้าจะยื่นออกมาบริเวณด้านบนเครื่อง และนอกจากกล้องแล้วหน่วยประมวลผลของรุ่นนี้ที่เป็น Qualcomm Snapdragon 855 แบบ 4 Core และยังมีแรม 6GB รอม 128GB ทำให้หายห่วงเรื่องเครื่องอืด เล่นเกมกระตุกได้เลย 

แบตเตอรี่ในรุ่นนี้มีความจุ 4,065 mAh ยังรองรับระบบชาร์จเร็วแบบ VOOC 3.0 เล่นไปชาร์จไปได้อย่างไม่มีปัญหา ดังนั้นสรุปแแล้วในรุ่นนี้ถึงแม้ว่าจะออกมาได้สักระยะ แต่สเปคโดยรวมยังถือเป็นอีกรุ่นที่น่าใช้เช่นเดียวกัน 

สรุป

ทั้ง 10 รุ่นที่ยกมาจัดอันดับนี้ มีทั้งรุ่นล่าสุดและรุ่นที่ออกมาก่อนหน้านี้ แต่ฟีเจอร์และการใช้งานยังถือว่าใช้ได้ดี แต่การเลือกรุ่นที่เหมาะกับเรานั้นก็ต้องดูจุดประสงค์การใช้งาน เพราะบางรุ่นก็เด่นที่กล้องและบางรุ่นก็เด่นที่ความเร็วของหน่วยประมวลผล ดังนั้นถามตัวเองให้ได้แล้วจึงไปลองเล่นที่ศูนย์บริการก่อนซื้อก็ได้ 

และหากใครมองหาสมาร์ทโฟน Oppo มือสองอยู่ล่ะก็ เราแนะนำที่ Kaidee ที่มีหมวดมือถือโดยเฉพาะที่ช่วยให้การเลือกชมสินค้าของคุณสะดวกมากยิ่งขึ้น ลองเข้าไปดูกันเลย

สอบถามข้อมูลอื่นๆ หรือสิทธิพิเศษเพิ่มเติม

กรุณาสแกนคิวอาร์โค้ด หรือเพิ่มเพื่อนด้วยไอดีไลน์ @kaideeofficial