โทรศัพท์มือถือ iPhone iPhone 11

ทำไมต้อง iphone 11

ความแรงของ iphone 11 บอกเลยว่าไม่ธรรมดา เพราะทันทีที่เปิดตัวก็คว้าแชมป์ “สมาร์ตโฟนขายดีที่สุดในโลก ในช่วงครึ่งแรกของปี 2020” ด้วยยอดจำหน่าย 37.7 ล้านเครื่อง เพิ่มขึ้นจากเดิม 10.8 ล้านเครื่อง เมื่อเทียบกับยอดขาย iPhone XR ในช่วงเวลาเดียวกันของปีที่แล้ว เรียกว่าทิ้งห่างคู่แข่งต่างค่ายไปแบบไม่เห็นฝุ่น

รุ่น ความจุและสี iphone 11

เริ่มที่รูปลักษณ์ภายนอกของ iphone 11 กันก่อน โดยรุ่นนี้มีด้วยกันทั้งหมด 3 รุ่น ได้แก่ iphone 11, iphone 11 Pro และตัวท็อปสุดคือ iphone 11 Pro Max โดยความจุเริ่มต้นของทั้ง 3 รุ่นอยู่ที่ 64GB เท่ากันหมด ต่างกันที่ความจุสูงสุดของตัวโปรทั้งสอง ทาง Apple ให้มากถึง 512GB

รุ่นและความจุ iphone 11

iphone 11 : 64GB, 128GB, และ 256GB iphone 11 Pro : 64GB, 256GB และ 512GB iphone 11 Pro Max : 64GB, 256GB และ 512GB

สี iphone 11

iphone 11 : ดำ, เขียว, เหลือง, ม่วง, (PRODUCT)RED, ขาว iphone 11 Pro : เงิน เทา ทอง และเขียวมิดไนต์ iphone 11 Pro Max : เงิน เทา ทอง และเขียวมิดไนต์ สิ่งที่น่าสนใจใน iphone 11 ความน่าสนใจของ iphone 11 หลักๆ ยังคงเป็นเรื่องของชิปประมวลผล Apple A13 Bionic ซึ่งผลิตโดย TSMC บริษัทผลิตชิปยักษ์ใหญ่ของโลกสัญชาติไต้หวัน โดยประสิทธิภาพของชิปตัวนี้ต่อยอดมาจาก iphone X รุ่นก่อนหน้า ทำให้มั่นใจได้ถึงเรื่องเร็วแรง ใช้งานไหลลื่นตามสไตล์แอปเปิล

ส่วนดีไซน์ตัวเครื่องโดยรวมนั้น ทาง Apple ตั้งใจให้ iphone 11 มีรูปลักษณ์คล้ายกับ iPad Pro 2018 ฉบับมินิ คือเน้นความโค้งมนและเรียบหรูเป็นหลัก ทั้งยังโดดเด่นด้วยกล้องหลัง 3 ตัว พร้อมด้วยพอร์ต USB-C เหมือนเดิม iphone 11 กับชิปประมวลผล Apple A13 Bionic

ครั้งหนึ่ง iphone 11 เคยครองแชมป์ชิปเซ็ตสมาร์ทโฟนที่แรงที่สุดเท่าที่เคยมีมา ความทรงพลังของชิปประมวลผล Apple A13 Bionic เป็นที่เลื่องลือกันในหมู่คนรักสมาร์ตโฟน ด้วยความเร็วแรงของ CPU ที่นำคู่แข่งไปเกือบ 2 เท่า ที่สำคัญตัวคอร์ประหยัดพลังงาน (High-efficiency cores) ยังทำได้ยอดเยี่ยมอีกด้วย

ทั้งยังมีข้อมูลจาก AnandTech นิตยสารฮาร์ดแวร์คอมพิวเตอร์ออนไลน์ ออกมาให้ข้อมูลเกี่ยวกับชิป iphone 11 เพิ่มเติมว่า ประสิทธิภาพของ Apple A13 Bionic เทียบชั้นกับการทำงานของ CPU ระดับ Desktop ที่ดีที่สุดของค่าย AMD และ Intel ได้อย่างสูสีเลยทีเดียว

iphone 11 กับกล้องที่ยอดเยี่ยมกว่าเดิม

iphone 11 กล้องคู่แบบอัลตร้าไวด์และไวด์ ความละเอียด 12MP อัลตร้าไวด์ : รูรับแสงขนาด ƒ/2.4 และมุมมองภาพ 120° // ไวด์: รูรับแสงขนาด ƒ/1.8 (ชุดเลนส์ 5 ชิ้น (อัลตร้าไวด์) และชุดเลนส์ 6 ชิ้น (ไวด์)) iphone 11 บันทึกวิดีโอได้สูงสุดระดับ 4K ที่ 24 fps, 25 fps, 30 fps หรือ 60 fps iphone 11 ซูมออกแบบออปติคอล 2 เท่า และซูมดิจิตอลได้สูงสุด 5 เท่า iphone 11 มีระบบป้องกันภาพสั่นไหวแบบออปติคอล (ไวด์) iphone 11 ถ่ายได้พาโนรามา (สูงสุด 63MP) HDR อัจฉริยะเจเนอเรชั่นถัดไปสำหรับภาพถ่าย บันทึกภาพถ่ายและ Live Photos ด้วยขอบเขตสีกว้าง ระบบป้องกันภาพสั่นไหวอัตโนมัติ หลังจากปล่อยให้คู่แข่งนำหน้าเรื่องฟังก์ชันการถ่ายรูปอยู่นาน ล่าสุดทาง Apple ก็ได้เพิ่มฟีเจอร์ถ่ายภาพกลางคืนหรือ Night Mode เข้ามาเป็นครั้งแรกใน iphone 11 ถึงจะมาช้ากว่าใครเขา แต่ประสิทธิภาพก็ถือว่าไม่น้อยหน้าใคร สว่างสวยงามละเอียดคมชัด ใช้งานง่ายเหมือนเดิม

ยิ่งใครเป็นสายเซลล์ฟี่น่าจะถูกใจ iphone 11 เป็นพิเศษ เพราะครั้งนี้ Apple จัดเต็มกับกล้องหน้า ด้วยความละเอียดถึง 12MP ครอบคลุมทุกมุมภาพกับฟังก์ชัน Ultra Wide ให้คุณเก็บภาพกว้างได้มากขึ้น สนุกกับสิ่งรอบตัวได้มากกว่าเดิม รวมถึงโหมดพรอตเทรตก็มีการอัปเกรดให้ถ่ายสัตว์และสิ่งของได้แล้ว ถึงจะยังเบลอไม่คมนักแต่ก็ไม่น่าเกลียด

TIPS : iphone 11 เพิ่มฟีเจอร์ QuickTake ให้คุณสลับโหมดถ่ายรูปและวิดีโอได้อย่างรวดเร็ว แค่แตะค้างที่ปุ่มชัตเตอร์ก็สลับได้ทันที

iphone 11 กับหน้าจอ Liquid Retina HD และรองรับ Dolby Atmos iphone 11 ใช้จอภาพ Multi-Touch แบบ LCD ทั้งหน้าจอ ขนาด 6.1 นิ้ว (แนวทแยง) พร้อมเทคโนโลยี IPS iphone 11 ความละเอียดหน้าจอ 1792 x 828 พิกเซลที่ 326 ppi อัตราส่วนคอนทราสต์ 1,400:1 (ทั่วไป) iphone 11 ให้ความสว่างหน้าจอสูงสุด 625 นิต (ทั่วไป) iphone 11 รองรับระบบเสียง Dolby Atmos สเปคโดยรวมหน้าจอ iphone 11 ไม่ต่างจาก iphone XR รุ่นก่อนหน้าเท่าไรนัก ยิ่งพอเปรียบเทียบกับคู่แข่งตัวท็อปแล้ว เรื่องความละเอียดหน้าจอและตัวหน้าจอ Liquid Retina HD น่าจะเป็นเรื่องที่หลายๆ คนกังวลใจ ซึ่งถ้าได้ใช้งานจริงแล้ว จะเห็นได้ว่า การทำงานหน้าจอยังคงยอดเยี่ยม ให้ความคมชัดสมจริงปกติ ทั้งยังรองรับ HDR10 และ Dolby Vision ได้สบายๆ

ส่วนสายเกมกราฟิกหนักหน่วงอย่าง Call of Duty หรือ PUBG ฯลฯ หรือสายเกมภาพสวยทั้งหลาย ก็เล่นได้ไหลลื่นสบายมาก ไม่มีหน่วงให้หงุดหงิดใจ แถมแบตตัว iphone 11 ก็อึดขึ้นกว่าเดิม ใช้งานได้นานกว่า iPhone XR สูงสุด 1 ชั่วโมง ทั้งยังรองรับการชาร์จไร้สาย รวมถึงแชร์การชาร์จระหว่างอุปกรณ์ได้อีกด้วย