กลับมาอีกครั้งแล้ว กับการระบาดของโรคร้ายอย่าง COVID-19 ในระลอกที่ 3 ของประเทศไทย ที่เรียกได้ว่ามีความรุนแรงมากกว่ารอบที่ผ่านมาอย่างเห็นได้ชัด ทำให้มีหลาย ๆ บริษัทออกนโยบายการทำงานที่บ้าน หรือ Work From Home กันทั่วหน้า เพราะสุขภาพสำคัญกว่าสิ่งไหน ! พนักงานอย่างเรา ๆ ที่อยู่ใน คอนโด หรือ บ้าน ก็เลยต้องมีการสร้าง ห้องทำงานในบ้าน ให้กลายเป็นออฟฟิศย่อม ๆ แทนการทำงานในบริษัทชั่วคราว
เราเชื่อว่าร้อยละ 99.99 ก็ต้องมีการเบื่อหน่ายกันบ้างล่ะ เพราะยิ่งอยู่แต่ในห้องเล็ก ๆ นานแค่ไหน ไฟในการทำงานก็ยิ่งน้อยลงทุกที แต่วันนี้เราจะบอกวิธีการเล็ก ๆ น้อย ๆ ในการเพิ่มไฟทำงานให้กับคุณด้วยเคล็ดลับการ สร้างห้องทำงานในบ้าน ให้มี Energy
ห้องทำงานในบ้าน นั้นสำคัญไฉน ?
เคยไหม ? กับการทำงานบนเตียง แล้วตัวไหลกลายเป็นนอนเล่น
เคยไหม ? กับการทำงานหน้าโทรทัศน์ แล้วสุดท้ายตากลับจ้องละครสุดโปรด
เคยไหม ? กับการทำงานบนโต๊ะอาหาร แล้วกลายเป็นมือจับช้อนแทนคอมพิวเตอร์
เพราะการทำงานในห้องอื่น ๆ นอกจากห้องทำงาน มีสิ่งเย้ายวนใจให้เราไม่มีสมาธิมากพอ จนเปลี่ยนกิจกรรมไปทำอย่างอื่น ที่มีอยู่ในห้องนอกจากการทำงาน และบางคนก็ชอบทำงานที่บ้านมากกว่าในออฟฟิศเสียด้วยสิ แต่ถ้าชอบทำงานที่บ้านจนกลายเป็นหมดไฟก็ไม่ไหว โบนัสหายหมดอย่างแน่นอน ดังนั้นถ้าหากเราจะสร้างห้องทำงานในบ้านก็ ต้องออกแบบให้เอื้อกับการทำงานของเรามากที่สุด จะออกแบบอย่างไรดี เรามีเคล็ดลับไอเดียมาเสนอคุณ
เคล็ดลับสร้าง ห้องทำงานในบ้าน ให้มี Energy
ห้องทำงานในบ้าน ต้องอากาศปลอดโปร่ง
ห้องทำงานในบ้านที่ดีก็ต้องมีอากาศที่ปลอดโปร่ง โล่งสบาย เพราะอากาศที่ดีจะทำให้เรามีสุขภาพกายและใจที่แข็งแรง แถมอากาศประเทศไทย ก็แสนจะร้อน ถ้าอากาศอึมครึม อบอ้าว เชื่อได้เลยว่าเราจะก็หงุดหงิดจนไม่อยากทำงานแน่ ๆ ดังนั้นถ้าห้องทำงานในบ้านของคุณมีหน้าต่าง ก็เปิดระบายอากาศสักหน่อย แต่ถ้าไม่มีก็เปิดพัดลม หรือเครื่องปรับอากาศทดแทนได้เช่นกัน
นอกจากนี้การเปลี่ยนห้องทำงานของคุณให้มีกลิ่นที่หลากหลาย ด้วย เครื่องหอม ก็อาจทำให้คุณมีสมาธิทำงานมากขึ้นนะ
อ่านบทความ วาเลนไทน์ปีนี้ เติมความรักให้หวานชื่นด้วย ‘เครื่องพ่นควันอโรม่า’
พักผ่อนสายตาด้วยพื้นที่สีเขียว
แน่นอนว่าการทำงานที่ต้องต่อสู้กับแสงบนหน้าจอคอมพิวเตอร์เป็นเวลานาน จะทำให้สุขภาพสายตาของเราก็ยิ่งแย่ลง การวางต้นไม้เล็ก ๆ ไว้ภายในห้องทำงานในบ้าน ก็เป็นอีกหนึ่งเคล็ดลับในการพักผ่อนสายตาที่ดี และนอกจากการจะช่วยทำให้สายตาได้พักแล้ว ต้นไม้ในบ้านบางชนิด ก็ยังเป็นสิ่งที่จะช่วยให้ห้องของเรามีอากาศที่สะอาดมากยิ่งขึ้น
โดยต้นไม้ในบ้านที่เราแนะนำให้วางไว้ที่ห้องทำงานในบ้าน ควรจะมีขนาดเล็ก เพื่อป้องกันการดึงความสนใจไปที่ต้นไม้มากกว่าการทำงาน และอาจใช้ต้นไม้ที่ดูแลง่าย เช่น พลูด่าง กระบองเพชร ไผ่กวนอิม และเศรษฐีเรือนใน เป็นต้น
เพิ่มไฟการทำงานด้วยการจัดแสง
ความมืด ศัตรูตัวร้ายของสายตา ยิ่งแสงมืดยิ่งต้องจ้องคอมพิวเตอร์มากขึ้น การเพิ่มหลอดไฟให้กับห้องทำงานในบ้านของเรา ก็มีข้อดีมากมาย ทั้งช่วยถนอมสายตา เพิ่มสมาธิให้สมองของเรา และยังช่วยให้เราไม่ง่วงเวลาทำงานได้ดีเชียวล่ะ ซึ่งเราอาจเปลี่ยนจุดตั้งคอมพิวเตอร์ของเราให้อยู่ใกล้หน้าต่าง หรือวางโคมไฟเพื่อใช้ในเวลากลางคืนก็ได้เช่นกัน
ส่วนไฟที่แนะนำคือหลอดไฟ Warm Light ที่มีสีเหลืองอุ่น และความสว่างในเวลาเดียวกัน เพราะสีเหลืองเป็นสีแห่งความมีชีวิตชีวา รับรองว่าคุณจะตื่นแน่นอน
หา Option เสริมไว้ใน ห้องทำงานในบ้าน
Work From Home ใครว่างานน้อย เถียงไปเลยว่าไม่จริง !
ไม่งานเท่าเดิมก็งานเยอะขึ้น บางคนมีเยอะเสียจนงงไปหมดว่างานนี้ถึงไหนแล้ว งานนี้ต้องทำอะไร คุยกับใคร หลงลืมจนบางครั้งก็เป็นปัญหาต้องตามแก้ หรือจะงานเยอะเสียจนต้องทำทั้งวันทั้งคืน ง่วงก็ง่วงแต่นอนไม่ได้
เรามีวิธีแก้ให้คุณแบบง่าย ๆ ด้วยการหาตัวช่วยเสริมต่าง ๆ ติดห้องทำงานในบ้าน ไม่ว่าจะเป็น บอร์ดช่วยจัดระเบียบงานและเตือนให้คุณทำงาน หรือ เครื่องชงกาแฟ ตัวช่วยสุดฮิตของคนทำงาน ที่จะทำให้คุณตื่นตัวอยู่ตลอดเวลาการทำงาน แต่อย่าดื่มเยอะเกินไปล่ะ เดี๋ยวจะกลายเป็นไม่สบายเอา
เลือกโต๊ะและเก้าอี้ตั้งใน ห้องทำงานในบ้าน อย่างเหมาะสม
นั่งทำงานนาน ๆ ชักจะเมื่อยขาเสียแล้วสิ ลุกขึ้นทีก็ปวดที บางคนปวดจนกลายเป็นโรค ออฟฟิศซินโดรมกันเลยนะ รู้ไหมว่าหนึ่งในสาเหตุของการปวดเหล่านี้ มาจากการนั่งแบบไม่ถูกสุขลักษณะ จนเกิดการกดทับของกล้ามเนื้อและเส้นประสาทต่าง ๆ
ซึ่งวิธีแก้แบบง่าย ๆ คือ การเลือกโต๊ะและเก้าอี้มาใช้สำหรับห้องทำงานในบ้านอย่างเหมาะสมกับรูปร่างของแต่ละคน ดังนี้
โต๊ะทำงาน ควรมีฟังก์ชันการใช้งานที่สะดวกสบายไม่ว่าจะเป็น ลิ้นชัก ช่องลอดสายไฟ รวมถึงขนาดที่ไม่เตี้ยหรือสูงจนเกินไป และถ้าหากคุณมีงบเยอะพอ อาจเลือกแบบที่ปรับระดับความสูงได้ เพื่อให้สมาชิกในบ้านสามารถใช้ร่วมกัน
เก้าอี้ทำงาน เลือกเก้าอี้ทำงานที่มีความแข็งแรงคงทน มีฟังก์ชันการช่วยบรรเทาอาการปวดได้ และมีความสูงที่พอดีกับตัวเราเช่นเดียวกับโต๊ะทำงาน ซึ่งเก้าอี้ทำงานส่วนใหญ่ก็สามารถปรับระดับได้อยู่แล้ว
ซึ่งท่านั่งการทำงานที่ดีควรมีลักษณะดังนี้
- ไหล่ไม่ยกขณะทำงาน
- ห่างจากหน้าจอคอมพิวเตอร์ 24-34 นิ้ว จอภาพส่วนบนสุดอยู่ต่ำกว่าสายตาเล็กน้อย
- เท้าวางบนพื้นอย่างพอดี
- ไม่ปวดหลัง
ทาสี ห้องทำงานในบ้าน ใหม่
รู้ไหมว่า สี เป็นสิ่งที่มีผลกระทบกับการทำงานของเราไม่แพ้ส่วนประกอบอื่น ๆ เพราะตามหลักจิตวิทยาแล้ว สีที่แตกต่างกันก็ส่งผลให้อารมณ์มีความแตกต่างกันเช่นเดียวกัน แล้วห้องทำงานในบ้านของเราควรเป็นสีไหนบ้างนะ ?
สีเขียว สีแห่งอิสระ สงบเยือกเย็น ปลอดโปร่ง ช่วยลดความกระวนกระวาย และกระตุ้นความคิดสร้างสรรค์และสมาธิ
สีม่วง สัญลักษณ์แห่งความสงบ เป็นสีที่ช่วยให้คุณมีสมาธิและความคิดสร้างสรรค์มากยิ่งขึ้น
สีแดง กระตุ้นสมองตื่นตัว ไม่ง่วงเวลาทำงาน แต่ถ้าใช้เยอะอาจส่งผลให้ไม่มีสมาธิได้เช่นกัน
สีส้ม สีแห่งความร่าเริง ช่วยให้ตื่นตัว มีสติปัญญา และมีอิสระในการตัดสินใจหรือการทำงานได้ดีขึ้น
สีเหลือง กระตุ้นให้เกิดอารมณ์สนุกสนาน กระตือรือร้น แต่ไม่เคร่งเครียดจนเกินไป เป็นสีแห่งความคิดสร้างสรรค์
สีน้ำเงิน และ สีฟ้า สีแห่งสมาธิ การผ่อนคลายจากความกังวลต่าง ๆ และยังทำให้เกิดแรงบันดาลใจต่าง ๆ อีกด้วย
สรุปการสร้างห้องทำงานในบ้าน
การจัด ห้องทำงานในบ้าน ที่ได้กล่าวไปข้างต้น เป็นเพียงส่วนประกอบเล็ก ๆ ที่จะทำให้คุณมีพลังงานในการทำงานที่บ้านมากขึ้น แต่วัตถุดิบสำคัญที่จะช่วยเติมเต็มความรู้สึกอยากทำงานนั้น ก็คือตัวคุณเองว่า จิตใจของคุณจะสดชื่นพร้อมทำงานแค่ไหน ?
นอกจากนี้ การจัดห้องทำงานในบ้านให้เป็นสัดส่วน ไม่ปะปนกับการใช้งานอื่น ๆ ก็จะทำให้การทำงานมีประสิทธิภาพมากขึ้นเช่นเดียวกัน และถ้าคุณมีบ้านเล็ก ๆ ไม่กี่ห้องก็คงไม่เพียงพอใช่ไหมล่ะ ลองค้นหาอสังหาฯ มือสองใน Kaidee Property ดู คุณอาจจะได้บ้านเดี่ยวหลังใหญ่ราคาเบาแถมมีห้องทำงานในบ้านอีกด้วยนะ !