ขายดาวน์รถยังไงดีไม่ให้เสี่ยงโดนโกง!!

ขายดาวน์รถยังไงดีไม่ให้เสี่ยงโดนโกง!!

สรุปบทความ

การซื้อขายรถยนต์แบบ “ขายดาวน์รถ” นั้นมีความเสี่ยงที่ค่อนข้างสูง ไม่ว่าจะเป็นฝ่ายไหนก็ตาม ใตรที่จะขายหรือจะซื้อต้องศึกษาข้อมูลของทั้งสองฝ่ายให้ดีเสียก่อน และการขายดาวน์รถแบบนี้จะได้รถยนต์มาในราคาที่ถูกลงกว่าการซื้อรถยนต์มือ 2 ทั่วไปเพียงเล็กน้อยเท่านั้น อาจจะไม่ค่อยคุ้มค่ากับความเสี่ยงที่จะต้องเสียก็เป็นได้ บทความนี้น่าจะพอเป็นไกด์ให้แก่ได้ในระดับหนึ่งว่าจริง ๆ คุณนั้นควรเลือกซื้อรถยนต์ที่ขายดาวน์รถหรือไม่ เพราะทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับปัจจัยหลาย ๆ อย่างที่ส่งให้แต่ละคนนั้น มีเหตุผลที่แตกต่างกันออกไป ดังนั้นควรทำความเข้าใจให้ดีเสียก่อน

“การขายดาวน์รถ” หนึ่งคำที่หลาย ๆ คนอาจจะยังไม่รู้จักดีเท่าไร เพราะปกติคนเราได้ยินแต่คำว่าดาวน์รถ ที่เป็นการจ่ายเงินจำนวนหนึ่งก่อนการซื้อรถ เพื่อให้ค่างวดที่ต้องผ่อนจ่ายแต่ละเดือนนั้นลดลง แต่ว่าการขายดาวน์รถกับการดาวน์รถนั้นแต่ต่างกันหรือไม่อย่างไร

เดี๋ยวเราจะมาดูเรื่องนี้ไปพร้อม ๆ กันว่าแท้ที่จริงแล้ว ขายดาวน์รถ มันคืออะไรกันแน่ แล้วถ้าคุณตกอยู่ในสถานการณ์บางอย่างที่จำเป็นต้องขายดาวน์รถแล้ว คุณจะมีขั้นตอนและวิธีการอย่างไร จึงจะสามารถขายได้และปลอดภัย มาอ่านบทความนี้กันได้เลย

การขายดาวน์รถ คืออะไร

หากใครที่คิดว่า “การขายดาวน์รถ” นั้นเหมือนกันกับ “การดาวน์รถ” แล้วล่ะก็ ต้องบอกเลยว่าคิดผิดแน่นอน!! เพราะทั้งสองอย่างมันไม่เหมือนกันเลยแม้แต่นิดเดียว แล้วถ้าอย่างนั้นแล้วการ “ขายดาวน์รถ” จริง ๆ มันคือ วิธีการขายรูปแบบการซื้อ-ขายใหม่ที่เพิ่งมีมาได้ไม่นานนี้เอง และกำลังได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก แต่ก่อนจะเข้าเรื่อง มาทำความรู้จักกับความหมายของคำบางอย่างเสียก่อน

จัดไฟแนนซ์ คือ??

ไฟแนนซ์ คือ การขอสินเชื่อในการกู้ยืมเงิน จากบริษัทหรือธนาคาร ที่รับทำไฟแนนซ์นี้ เพื่อนำมาซื้อรถยนต์ โดยมีข้อเสนอในการผ่อนจ่ายค่ารถยนต์ออกเป็นงวด ๆ พร้อมกับจ่ายดอกเบี้ยให้ โดยผู้ที่นำรถมาจัดไฟแนนซ์ จะมีสถานะเป็น “ผู้เช่าซื้อ” ซึ่งหลังจากที่ผ่อนครบตามสัญญาแล้ว รถยนต์ที่ผ่อนจ่ายนั้นจึงจะเป็นของเราจริง ๆ 

กลับมาที่การ “ขายดาวน์รถ” ปกติแล้วคนเราเวลาจะซื้อรถยนต์สักคัน เราจะต้องนำรถยนต์ไปเข้าไฟแนนซ์เพื่อผ่อนชำระไปแต่ละงวดกันอยู่แล้ว การขายแบบนี้คือ การที่ผู้ที่ซื้อรถยนต์มาจัดไฟแนนซ์ และผ่อนต่อไม่ไหวหรือไม่อยากที่จะผ่อนต่อแล้ว จึงมีความต้องการที่ขายรถยนต์ต่อไปให้อีกคนหนึ่ง โดยการแจ้งเปลี่ยนคู่สัญญาเป็นผู้เช่าซื้อรายใหม่ โดยให้ผู้ที่ซื้อมารับช่วงต่อในการผ่อนต่อในงวดที่เหลือ

การขายดาวน์รถ = ผ่อนต่อไม่ไหว และขายรถทิ้ง

อะไรเป็นเหตุผลที่ขายดาวน์รถกัน??

คนที่ต้องการขายดาวน์รถ ส่วนหลัก ๆ เลยก็คือการที่ผ่อนต่อไม่ไหว หรือไม่อยากที่จะผ่อนต่ออีกแล้ว แบบนั้นทำไมคนเหล่านี้ถึงไม่ปล่อยให้รถยนต์คันนี้โดนยึดไปเสียเลยล่ะ จะได้หมดปัญหากันไป แถมยังไม่ต้องมาวุ่นวายหาผู้ซื้ออีกด้วย เหตุผลง่าย ๆ มีไม่กี่อย่างเท่านั้น

  1. กลัวติดแบล็กลิสต์

อย่างแรกเลยคือการกลัวที่จะติดแบล็กลิสต์ทางการเงิน หากรถยนต์คุณเกิดการโดนยึดขึ้นมา และถ้าคุณติดแบล็กลิสต์แล้วมันจะทำให้ ตัวคุณเองนั้นไม่มีเครดิตที่จะสามารถไปกู้เพื่อทำธุรกรรมอื่น ๆ ต่อได้นั่นเอง

  1. กลัวส่วนต่าง

แน่นอนว่าการที่โดนยึดรถยนต์ไป ใช่ว่าปัญหาจะหมดไป ส่วนต่างในที่นี้คือ หากรถยนต์ของคุณค้างไฟแนนซ์อยู่ 400,000 บาท และรถได้ถูกยึดไปเพราะไม่ได้ผ่อนชำระต่อ และธนาคารนำไปขายทอดต่อในตลาด แต่ได้เพียง 200,000 บาทเท่านั้น นั่นหมายความว่าคุณยังต้องจ่ายค่าส่วนต่างในจุดนี้อยู่อีกถึง 200,000 บาท ด้วย

ขั้นตอนการขายดาวน์รถ

ต้องพูดถึงเรื่องกฎหมายกันก่อน เดิมทีรถที่ติดไฟแนนซ์นั้น ตัวคุณเองนั้นยังไม่ใช่เจ้าของรถยนต์คันนี้จริง ๆ ดังนั้นคุณจะไม่มี “กรรมสิทธิ์” ในรถคันนี้อยู่เลย ทำให้คุณไม่สามารถขายให้ใครได้หากยังไม่ปิดยอดไฟแนนซ์เสียก่อน ดังนั้นขั้นตอนการขายดาวน์รถนั้นจึงแบ่งออกได้เป็น 2 กรณีด้วยกัน

กรณีขายดาวน์รถโดยการใช้เงินสดเต็มจำนวน

วิธีนี้เป็นวิธีง่าย ๆ และขั้นตอนไม่ยุ่งยากเท่าไรนัก เพราะแค่จ่ายเงินเพื่อไปปิดสัญญาทุกอย่างก็จบ โดยมีขั้นตอนง่าย ๆ คือ

  1. ตกลงราคา

อย่างแรกเลยคือการตกลงราคาระหว่างผู้ขายและผู้ซื้อที่พอใจกันทั้งสองฝ่ายให้ดีเสียก่อน เพราะอาจจะเป็นปัญหาในขั้ยตอนต่อ ๆ ไปได้

TIPS : ก่อนจะตกลงราคากันควรดูก่อนว่ารถที่จะซื้อนั้นติดไฟแนนซ์อยู่เท่าไร

  1. จ่ายเงินปิดไฟแนนซ์

ผู้ที่จะซื้อรถยนต์ต่อจะต้องเตรียมเงินตามที่ได้ตกลงราคากันเอาไว้ เช่น หากตกลงราคาไว้ที่ 500,000 บาท และติดไฟแนนซ์ อยู่ 300,000 บาท คุณต้องนำเงินสด 300,000 บาทไปปิดไฟแนนซ์ และส่วนต่างที่เหลือ 200,000 บาท จึงค่อยนำไปจ่ายให้แก่เจ้าของรถเดิม

  1. โอนกรรมสิทธิ์รถยนต์

จากนี้เป็นเรื่องของการโอนกรรมสิทธิ์แล้ว ต้องให้ผู้ขายนั้นแจ้งแก่ผู้จัดไฟแนนซ์ให้โอนรถเป็นชื่อผู้ซื้อไปเลย แต่ถ้าหากทางไฟแนนซ์ไม่รับทำให้แล้วล่ะก็ ต้องดำเนินการเอง โดยต้องเตรียม ชุดโอน และเอกสารต่าง ๆ ให้ครบ (แต่ละบริษัทไฟแนนซ์จะขอเอกสารไม่เหมือน ต้องสอบถามก่อนที่จะดำเนินการ)

TIPS : ต้องให้ทั้งผู้ซื้อ-ผู้ขายไปจ่ายเงินด้วยกัน และเก็บสำเนาใบเสร็จการปิดบัญชีกับสัญญาซื้อ-ขายเป็นหลักฐานไว้ด้วย 

กรณีขายดาวน์รถแบบจ่ายเงินบางส่วนและให้ผู้ซื้อผ่อนต่อ

วิธีนี้จะยากขึ้นมาอีกขั้นจากกรณีแรกเพราะการเปลี่ยนให้ผู้ซื้อผ่อนต่อนั้น มักเรียกกันว่า “การเปลี่ยนคู่สัญญา” ซึ่งมีขั้นตอนดังต่อไปนี้

  1. เตรียมเอกสาร

เอกสารนี้ให้เตรียมเหมือนกับการขอสินเชื่อ (ซึ่งแต่ละที่นั้นใช้เอกสารที่แตกต่างกันออกไป ต้องถามไฟแนนซ์แต่ละบริษัทก่อนทำสัญญา)

  1. ยื่นขอเปลี่ยนผู้เช่าซื้อ

จากนั้นให้นำเอกสารไปยื่นกับบริษัทหรือธนาคารที่จัดไฟแนนซ์ด้วย เพื่อทำเรื่องขอเปลี่ยน “ผู้เช่าซื้อ” ซึ่งผู้ขายและผู้ซื้อต้องไปดำเนินเรื่องพร้อมกัน หลังจากนี้ทางไฟแนนซ์จะพิจารณาจากเอกสารว่าสามารถทำได้หรือไม่เอง

  1. เซ็นสัญญาเช่าซื้อ

ถ้าหากผ่านขั้นตอนที่ 2 ไปได้ โดยที่รับการอนุมัติจากทางไฟแนนซ์แล้ว ผู้ซื้อขายและผู้ซื้อต้องไปที่ไฟแนนซ์อีกครั้ง เพื่อทำการเซ็นสัญญาเช่าซื้อ และจ่ายค่าดำเนินการและค่างวดล่วงหน้าก่อน 2 งวด จากนั้นผู้ขายค่อยรับเงินดาวน์ตามที่ตกลงไว้และส่งมอบรถยนต์ให้แก่ผู้ซื้อ

TIPS : ทำทุกขั้นตอนให้เสร็จเสียก่อนค่อยรับเงินดาวน์และปล่อยรถ ไม่อย่างนั้นไฟแนนซ์ยังถือว่าผู้ขายรถนั้นยังเป็นผู้เช่าซื้ออยู่

ความเสี่ยงของการขายดาวน์รถ

แน่นอนว่าการขายดาวน์รถนั้นมีความเสี่ยงค่อนข้างมาก หากไปลองอ่านทั้งหมดดูแล้ว จะรู้ได้แทบจะทันทีเลยว่ามีช่องโหว่เยอะมากในแต่ละขั้นตอน ซึ่งเป็นสิ่งที่ผู้ซื้อและผู้ขายจะต้องพิจารณาและตรวจสอบข้อมูลของคู่ค้าให้ดีเสียก่อนที่เริ่มทำสัญญา อีกทั้งยังควรเก็บสำเนาของเอกสารทั้งหมดที่มีเอาไว้ให้ดีอีกด้วย ซึ่งความเสี่ยงนี้สามารถเกิดขึ้นได้ทั้ง 2 ฝ่ายอีกด้วย

ความเสี่ยงฝ่ายผู้ขาย

  • ความเสี่ยงที่น่ากลัวมากที่สุดเลยคือ หากขายรถไปแล้ว และผู้ซื้อนั้นนำรถยนต์คันนี้ไปก่อเหตุอาชญากรรมหรือขับรถไปทำอะไรก็ตามที่ผิดกฎหมาย ผู้ที่ต้องรับผิดชอบนั้นก็คือ ผู้ที่เป็นฝ่ายขาย เพราะชื่อที่ระบุเอาไว้อยู่ในเล่มทะเบียนว่าเป็นผู้ที่ครอบครองนั้นก็คือ “คนขาย” นั่นเอง

ความเสี่ยงฝ่ายผู้ซื้อ

  • ส่วนความเสี่ยงของทางฝ่ายผู้ซื้อ ก็คือเรื่องของการผิดสัญญา หากคุณเป็นผู้ที่ซื้อและตกลงกันเป็นอย่างดิบดีว่า เมื่อผ่อนจ่ายจนครบทุกงวดแล้ว จะโอนรถให้เป็นชื่อของผู้ซื้อ แต่ดันผิดสัญญา ไม่ยอมโอนมาให้ ถึงแม้ว่าจะสามารถฟ้องร้องได้ตามกฎหมายก็ตาม แต่ก็ต้องเสียเวลาในการทำเรื่องอยู่ดี
  • อีกหนึ่งความเสี่ยงเลยก็คือ ผู้ซื้อนั้นจะเสียเงินสดเป็นจำนวนมาก ซึ่งอาจจะมากจนเกินไปเสียด้วยซ้ำ เป็นเรื่องที่ไม่ค่อยดีเท่าไรนัก เพราะการนำเงินสดไปจ่าย เกิดหลังจากนั้นคุณเกิดเหตุจำเป็นที่ต้องการใช้เงินแล้ว คุณอาจจะลำบากก็เป็นได้

ขายดาวน์รถอย่างไรไม่ให้เสี่ยง

มันก็ยังจะพอมีวิธีที่ทำให้การซื้อ-ขายดาวน์รถให้มีความเสี่ยงน้อยอยู่ แต่ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับความรอบคอบของทั้งผู้ซื้อและผู้ขายด้วย โดยขั้นตอนมีดังนี้

1. ผู้ซื้อจะต้องเตรียมเอกสารการขอสินเชื่อมาให้ครบ และไปติดต่อขอสินเชื่อเพื่อทำการเปลี่ยนสัญญาเช่าซื้อ (โดยที่ผู้ขายนั้น ยังไม่ต้องเก็บเงินดาวน์และยังไม่ต้องส่งมอบรถให้แก่ทางผู้ซื้อ)

2. เมื่อผู้ซื้อยื่นสินเชื่อผ่านแล้ว ให้ทั้งสองฝ่ายนัดกันไปจัดไฟแนนซ์ เพื่อทำการเปลี่ยนสัญญาเช่าซื้อ ให้เป็นชื่อของผู้ซื้อ และหลังจากนี้ผู้ซื้อจะต้องจ่ายให้ค่าใช้จ่ายต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็น ค่าเปลี่ยนสัญญา ค่าประกัน ค่าโอน ให้แก่ไฟแนนซ์

3. ให้ผู้ซื้อและผูขายร่างสัญญาขึ้นมาเพื่อยืนยันการรับเงินดาวน์และส่งมอบรถเป็นที่เรียบร้อย พร้อมเซ็นกำกับ เก็บไว้ทั้งสองฝ่ายเพื่อเป็นหลักฐาน (ข้อนี้สำคัญที่สุด)

TIPS : ควรตรวจสอบเนื้อหาภายในสัญญาและเก็บรักษาไว้เป็นอย่างดี หากเกิดเรื่องอะไรขึ้นสามารถใช้เป็นหลักฐานฟ้องร้องกลับได้

สรุปท้ายบทความ ขายดาวน์รถ

การซื้อขายรถยนต์แบบ “ขายดาวน์รถ” นั้นมีความเสี่ยงที่ค่อนข้างสูง ไม่ว่าจะเป็นฝ่ายไหนก็ตาม ใตรที่จะขายหรือจะซื้อต้องศึกษาข้อมูลของทั้งสองฝ่ายให้ดีเสียก่อน และการขายดาวน์รถแบบนี้จะได้รถยนต์มาในราคาที่ถูกลงกว่าการซื้อรถยนต์มือ 2 ทั่วไปเพียงเล็กน้อยเท่านั้น อาจจะไม่ค่อยคุ้มค่ากับความเสี่ยงที่จะต้องเสียก็เป็นได้ บทความนี้น่าจะพอเป็นไกด์ให้แก่ได้ในระดับหนึ่งว่าจริง ๆ คุณนั้นควรเลือกซื้อรถยนต์ที่ขายดาวน์รถหรือไม่ เพราะทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับปัจจัยหลาย ๆ อย่างที่ส่งให้แต่ละคนนั้น มีเหตุผลที่แตกต่างกันออกไป ดังนั้นควรทำความเข้าใจให้ดีเสียก่อน

หากคุณกำลังมองหาการซื้อรถยนต์มือสองราคาถูก ที่ปลอดภัย ไม่มีความเสี่ยง และยังสามารถติดต่อการซื้อ-ขายรถยนต์ได้โดยตรงกับเจ้าของรถเดิมเพื่อดูรถยนต์จริง ๆ ก่อนการตัดสินใจแล้วล่ะก็ เข้ามาเลยที่ Kaidee Auto

สอบถามข้อมูลอื่นๆ หรือสิทธิพิเศษเพิ่มเติม

กรุณาสแกนคิวอาร์โค้ด หรือเพิ่มเพื่อนด้วยไอดีไลน์ @kaideeofficial