ความลับของรถเต่า ‘Volkswagen Beetle’ ในตำนาน

ความลับของรถเต่า ‘Volkswagen Beetle’ ในตำนาน

สรุปบทความ

รถ Volkswagen Beetle หรือ ‘รถเต่า’ เป็นอีกหนึ่งรถยนต์ที่ได้รับความนิยมมาอย่างยาวนาน ไม่ว่าจะด้วยขนาดที่เล็ก เหมาะสำหรับขับในเมือง , ดีไซน์สุดคลาสสิค หรือเรื่องราวความเป็นมาของรถคันนี้ ต่างก็เป็นเหตุผลที่ทำให้รถเต่าคันนี้อยู่กับเรานานถึง 80 ปี แต่แน่นอนว่างานเลี้ยงย่อมมีวันเลิกรา เมื่อปี 2018 ที่ผ่านมา ทาง Volkswagen ได้ประกาศยุติการผลิต Volkswagen Beetle ขึ้น เล่นทำเอาแฟนๆ ช็อกไปตามๆ กัน วันนี้เราจะนั่งไทม์แมชชีน ย้อนอดีต ไปเยี่ยมชมโมเดลของรถคันนี้ แต่ละยุค ไปพร้อมๆกันค่ะ

“เข็มนาฬิกาไม่เคยหยุดอยู่นิ่ง เฉกเช่นเดียวกับความคิดของมนุษย์” เมื่อเวลาผ่านไป วงการรถยนต์ได้พัฒนา และผลิตรถยนต์รุ่นใหม่ ที่มาพร้อมเทคโนโลยีล้ำสมัยมากมาย และแน่นอนว่า “When we get some, we lose some”….

ปัจจุบัน เราจะเห็นได้ว่ารถยนต์ที่เคยได้รับความนิยมในอดีต ได้เริ่มหดหายไปตามกาลเวลา และสำหรับรถยนต์รุ่นเก่าบางคัน ไม่เพียงแค่ตัวรถ แต่ชื่อที่เคยเป็นตำนานของรถเอง ก็ได้หายไปจากโลกนี้ เช่นกัน 


และเมื่อวันที่ 10 กรกฎาคม 2019 วงการยานยนต์ ก็ได้สูญเสียรถยนต์ในตำนานไปอีกคัน เมื่อบริษัทรถยนต์ Vlokswagen ประกาศปิดฉากรถ Volkswagen Beetle หรือ ที่พวกเรารู้จักกันดีในนาม “รถเต่า” “รถโฟล์ค” หรือ “Type 1”

volkswagen-newsroom

ตลอดระยะเวลา 80 ปีที่ผ่านมา ผู้คนรู้จัก และได้ยินชื่อ “รถเต่า” กันบ่อยครั้ง แต่มีน้อยคนนัก ที่รู้เรื่องราวความเป็นมาของรถคันนี้จริงๆ

วันนี้เราจะพาเพื่อนๆ ไปทำความรู้จักกับรถเต่าในตำนานคันนี้กัน ไม่ว่าจะเป็นเรื่องราว กว่าจะมาเป็นรถเต่า ที่ทุกคนรู้จัก รวมไปจนถึงโมเดลในแต่ละยุคสมัย ถ้าพร้อมแล้ว เราไปดูกันเลยค่ะ

น้องเต่า ถูกสร้างมาจากมือของอาชญากร…

รถเต่า หรือ รถโฟล์ค เป็นชื่อสั้นๆ ที่เราใช้เรียกรถ Volkswagen Beetle ซึ่งเป็นชื่อที่อยู่คู่กับวงการรถยนต์มาหลายศตวรรษ เรื่องราวความเป็นมาของรถยนต์หน้าตาคลายแมลงเต่าทองคันนี้ ได้เริ่มต้นขึ้น เมื่อย้อนกลับไปตั้งแต่ปี ค.ศ 1934 ที่ประเทศเยอรมัน และถูกสร้างขึ้นมาจากเนื้อมือของอาชญากรสงครามโลก…“Adolf Hitler(อดอล์ฟ ฮิตเลอร์)

dailyarchives.org

ด้วยความต้องการของ ฮิตเลอร์ ที่อยากให้ประชาชนในประเทศเยอรมนีมีรถยนต์ขับกันอย่างทั่วถึง ไม่ว่าจะเป็นคนชนชั้นกลาง หรือชนชั้นล่าง เขาจึงสั่ง Ferdinand Porsche (ผู้ก่อตั้งบริษัทรถยนต์ Porsche) ให้ผลิตรถยนต์สำหรับคนเยอรมัน ที่มีประสิทธิภาพเทียบเท่ากับรถยนต์ Ford ซึ่งเป็นรถยนต์ตัวโปรดของเขา

โดยมีโจทย์ที่ว่า รถยนต์คันนี้ต้องบรรจุ ผู้ใหญ่ได้ 2 คน และ เด็กได้ 3 คน และสามารถวิ่งได้ด้วยความเร็วถึง 100 กม./ชม. และที่สำคัญราคาถูก เหมาะสมกับคนทุกชนชั้น ทุกเพศ ทุกวัย 

เมื่อเวลาผ่านไปได้ 4 ปี ในปี 1938 ในที่สุดโลกก็ได้ชื่นชมโมเดลรถเต่าคันแรกของโลก โดยมีชื่อว่า Volkswagen Type 1 ซึ่งผลิตจากโรงงาน Volkswagen 
ซึ่งคำว่า Volk แปลว่า ประชาชน ส่วนคำว่า Wagen แปลว่า รถ ดังนั้น Volkswagen จึงให้ความหมายว่า ‘รถยนต์ของประชาชนทั่วไป’ นั่นเอง

แต่โดยแท้ที่จริงแล้ว จุดประสงค์ของฮิตเลอร์ ในการผลิตรถ Volkswagen คันนี้ มีมากกว่าแค่ช่วยให้ประชาชนมีรถยนต์ใช้ โปรเจกต์นี้ กลับเป็นอีกหนึ่งใน Propaganda (โฆษณาชวนเชื่อ ทางการเมือง) ที่ทำให้ชาวเยอรมันเทใจให้พรรคนาซีนั่นเอง


ด้วยคำพูดของฮิตเลอร์ที่ว่า “Fünf Mark die Woche musst Du sparen – willst Du im eignen Wagen fahren!”  ซึ่งแปลได้ว่า “เพียงแค่ 5 มาร์คต่อสัปดาห์ ทุกคนสามารถมีรถยนต์ขับเป็นของตัวเอง” และก็ทำให้ชาวเยอรมันหลงใหลโปรเจกต์ของเขาอย่างโงหัวไม่ขึ้น เพราะในสมัยนั้น เงิน 5 มาร์คเยอรมัน ถือว่าประหยัดมาก เทียบกับการได้มีรถยนต์ใช้

tipsdd

อย่างไรก็ตาม บางแหล่งข่าวได้ให้ข้อมูลว่า เงินที่ได้จากประชาชนในตอนนั้น ก็ได้กลายเป็นเงินทุนนำไปใช้ผลิตอาวุธสงคราม เตรียมการสำหรับสงครามโลกครั้งที่ 2 อีกด้วย

1938

mad4wheels

ปี 1938 เป็นปีที่ชาวเยอรมันได้เห็นโฉมหน้าของรถเต่ารุ่นแรก ที่มีชื่อว่า ‘The Type 1’ ผลิตโดยโรงงาน Volkswagen ที่เมือง Wolfsburg 


Ferdinand Porsche ผู้รับหน้าที่เป็นวิศวกรยานยนต์ เจ้าของโปรเจกต์ ได้รับแรงบันดาลใจจากดีไซน์ของรถ Porsche รุ่น The Type 12 และ องค์ประกอบบางส่วนจากโมเดลรถของบริษัทรถยนต์ Tatra ประเทศ Czechoslovakia ซึ่งเห็นได้ชัดจาก รูปทรงของ The Type 1 ที่คล้ายกับ หยดน้ำ (TearDrop), หลังคาโค้งมน และ การเคลื่อนที่แบบ Aerodynamic นั่นเอง

1946

รถ Volkswagen Beetle บนถนน ที่ประเทศ เยอรมัน ในปี 1940

หลังจากที่สงครามโลกได้ยุติลง โรงงาน Volkswagen ได้ถูกควบคุมโดย สหราชอาณาจักร อังกฤษ ในการดูแล และสานต่อการผลิตรถยนต์ Volkswagen รุ่น The Type 1 ต่อไป และในปีเดียวกันนี้เอง ทางโรงงานก็สามารถทำสถิติ ผลิตรถยนต์ได้มากถึง 10,000 คัน เลยทีเดียว

1968

Volkswagen รุ่น “1963 Love Bug” จากหนังเรื่อง Herbie Goes to Monte Carlo

1968 เป็นปีที่รถได้ถูกเปลี่ยนชื่อจาก The Type 1 เป็น Volkswagen Beetle อย่างเป็นทางการ โดยคำว่า “Beetle” ได้ถูกแปลมาจากคำภาษาเยอรมัน “der Käfer” ซึ่งมีความหมายว่า ‘ด้วง’ นั่นเอง


และในปีเดียวกัน บริษัทหนัง Disney ก็ได้ปล่อยหนังออกมา 6 เรื่อง ที่มีการใช้รถยนต์ของ Volkswagen รุ่น 1963 Beetle เป็นตัวเอก และเรื่องที่ดังที่สุด ก็หนีไม่พ้นเรื่อง Herbie Goes to Monte Carlo ซึ่งได้นำเอา 1963 Beetle มาเปลี่ยนดีไซน์ภายนอก ให้กลายเป็นรถแข่ง และมีเลข 53 ติดที่กระโปรง และประตูรถ โดยมีชื่อรุ่นว่า Volkswagen 1963 Love Bug ค่ะ

1971

1971 Volkswagen รุ่น Super Beetle 

ในปีนี้ Volksawagen ได้อวดโฉมรถเต่ารุ่นพรีเมียม ที่เป็นที่รู้จักกันในนามอย่าง “Super Beetle” 

โดยรุ่นนี้ ได้มีการพัฒนาช่วงล่างด้านหน้ารถ (Front Suspension) เพื่อให้สามารถเพิ่มขนาดความกว้างของกระโปรงหน้ารถได้มากขึ้น 

นอกจากนี้ Super Beetle 1971 ยังเป็นรุ่นที่เคลื่อนตัวได้เร็วที่สุดเท่าที่ Volkswagen เคยปล่อยมา ด้วยความเร็วที่ 16.1 วินาที ต่อ 60 mph

และในเวลาเพียงแค่ 1 ปีเท่านั้น Super Beetle สามารถขายได้ทั้งหมด 15,007,034 คัน ซึ่งเป็นตัวเลขที่ทำลายสถิติรถยนต์ที่ขายดีที่สุดในโลกอย่าง Ford รุ่น Tin Lizzy ที่ครองตำแหน่งแชมป์ถึง 4 ทศวรรษ ได้อย่างขาดลอย

1977

1977 Volkswagen Beetle Convertible

เป็นครั้งแรกที่ Volkswagen Beetle มาในรูปแบบของ รถ Convertible หรือ รถยนต์แบบเปิดประทุน 

ซึ่งโมเดลรุ่นนี้ ถูกผลิตขึ้นภายใต้แคมเปญ รถยนต์ Editions produced (การผลิตรถยนต์ จำนวนจำกัด) ของ Volkswagen ดังนั้น Volkswagen Beetle Convertible จึงถูกผลิตออกมาเพียงแค่ 1,000 เท่านั้น

1998

1998 Volkswagen The New Beetle

หลังจากปี 1971 แน่นอนว่า Volkswagen ก็ไม่หยุดที่จะพัฒนา และอัปเกรดรถไอคอนิค Volkswagen Beetle มีการปรับเปลี่ยนสมรรถนะเครื่องยนต์, ดีไซน์หน้าต่าง, กระโปรงรถ และ อื่นๆ มากมาย อยู่ตลอดเวลา 

แต่การปรับโฉมครั้งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ของรถ Volkswagen Beetle นั้น เกิดขึ้นหลังจากจุดเริ่มต้น 60 ปีให้หลัง โดยการเปลี่ยนโฉมครั้งนี้ Volkswagen Beetle มาในคอนเซ็ปต์ Nostalgia เพื่อตอบสนองความต้องการของเหล่า Baby Boomer ที่ยังรัก และคิดถึงรถเต่าในตำนานกันอยู่ 

ครั้งนี้ The new Beetle มาพร้อมเครื่องยนต์ 4 หัวสูบ 115 แรงม้า 2.0 ลิตร  พร้อมกับดีไซน์รถทรง ครึ่งวงกลม ที่ทำให้ Interior ภายใน ให้ฟิลเหมือนตู้ปลาทองกลับหัว 

แต่จุดเด่นที่ท็อปฟอร์มรถยนต์ยี่ห้ออื่นๆ คือ Feature น่ารักๆ อย่าง แจกันดอกไม้ บริเวณแผงหน้าปัดรถยนต์  (Build-in Flower Vase) นั่นเอง

2018

headlightmag

เมื่อปี 2018 ที่ผ่านมา Volkswagen ได้ประกาศปิดฉากรถเต่าในตำนาน โดยการเปิดตัวรถยนต์ Volkswagen Beetle รุ่นสุดท้าย ที่มีชื่อว่า “Final Edition” ซึ่งผลิตขึ้นเพียงแค่ 5,961 คัน เท่านั้น

รุ่น Final Edition นี้ มีให้เลือกทั้งแบบ รถเก๋ง Coupe และ แบบเปิดประทุน 

อย่างไรก็ตาม เพื่อตอบสนองคำเรียกร้องจากแฟนๆ ในปี 2019 ทาง Volkswagen ได้ประกาศผลิตรุ่น Final Edition เพิ่มขึ้นอีก 65 คัน ซึ่งเป็นจำนวนปีของการขาย Volkswagen Beetle ในฝั่งประเทศเม็กซิโก โดยในครั้งนี้ สามารถสั่งซื้อในอินเทอร์เน็ต ด้วยราคาเริ่มต้นที่ 642,600 บาท เท่านั้น ที่สำคัญทาง Volkswagen ยังติดป้ายโลหะที่ระลึกไว้ข้างซ้าย พร้อมกับป้ายทะเบียน หมายเลข 1-65 อีกด้วย 

บอกลารถเต่าในตำนาน

ตลอดระยะเวลา 80 ปีที่รถเต่าหรือรถคุณปู่ ได้โลดแล่นบนท้องถนน Volkswagen Beetle คันนี้ คงเคยเป็นรถในวันฝันของใครหลายคน บางคนโชคดีได้มันมาครอบครองในที่สุด แต่ก็มีอีกหลายคนที่พึ่งจะเริ่มสร้างตัว และเก็บเงิน พร้อมจะซื้อ แต่ VW ก็ดันเลิกผลิตมันเสียแล้ว

และในอนาคตเราจะได้เห็นรถคันนี้อีกไหม แม้แต่ CEO ของ Volkswagen อย่าง Hinrich J. เองก็ยังตอบไม่ได้ เขาได้แต่ให้ประโยคทิ้งท้ายกับการเดินทางตลอดระยะเวลา 80 ปี ของ Volkswagen Beetle ว่า “Never Says Never” (จะไม่พูดว่าไม่ได้ เพราะทุกอย่างเป็นไปได้)

หากคนไหนหลงใหล รถเต่า คันนี้ และ อยากได้น้องมาเป็นเจ้าของ แต่หาซื้อตามศูนย์ขายรถไม่ได้เลย  ไม่ต้องห่วงค่ะ ที่ Kaidee เรามีขายนะคะ ตั้งแต่มือหนึ่งยันมือสองเลย ที่สำคัญเรามีผู้เชี่ยวชาญพร้อมตอบคำถาม และรับฟังปัญหาของคุณตลอด 24 ชั่วโมงด้วย คลิกเลยค่ะ 

สอบถามข้อมูลอื่นๆ หรือสิทธิพิเศษเพิ่มเติม

กรุณาสแกนคิวอาร์โค้ด หรือเพิ่มเพื่อนด้วยไอดีไลน์ @kaideeofficial