How to Social Detox พักกายพักใจจากโลกโซเชียล

How to Social Detox พักกายพักใจจากโลกโซเชียล

สรุปบทความ

ช่วงแรกของการ ลด ละ เลิก โซเชียลอาจจะเป็นอะไรที่ฝืนใจ …เอาหน่อย ลองค่อยๆ ปรับไปทีละนิด ลดเวลาลงทีละหน่อย เพื่อสภาพจิตใจของคุณที่ดีขึ้นกว่าเดิม

หลังจากบทความก่อน เราพาทุกคนเช็กลิสต์สำรวจพฤติกรรม Social Addict เบื้องต้นกันไป ใน “ปวดหัวบ่อย! ใช่ Social Addiction ไหม เช็กอาการกันใครที่ประเมินตัวเองแล้วว่า เอ๊ะ เราสุ่มเสี่ยงใกล้เคียงอยู่หลายข้อ แถมร่างกายยังเริ่มแสดงอาการประท้วง ส่งสัญญาณเตือน ว่าเรากำลัง “อิน” กับเรื่องราวในโซเชียลมากไป

Social-Media-Detox

ทั้งความเครียดแบบไร้สาเหตุ โมโหง่าย เหนื่อยหน่ายใจ ไปจนถึงกดดันตัวเองโดยไม่รู้ตัว สิ่งเหล่านั้นคือผลข้างเคียง จากการที่เราทุ่มเทเวลาอยู่ให้กับ “เรื่องราวของคนอื่น” ในโซเชียลมากเกินไป

แล้วอะไรล่ะ… คือความพอดี เรื่องของคนอื่นก็ยังอยากรู้ หาคำตอบไปพร้อมกันใน 5 วิธี Social Detox ง่ายๆ ที่ไม่ว่าใครก็ทำได้!

Social Detox คืออะไร

เชื่อว่าหลายคนอาจได้ยินประโยคนี้อยู่บ่อยๆ โดยเฉพาะในยุคนี้สมัยนี้ ที่โซเชียลเข้ามามีบทบาทในชีวิตเรามากขึ้น ทั้งคอยอำนวยความสะดวก ให้คนอยู่ไกลได้ใกล้กันมากขึ้น ทำธุรกรรมได้รวดเร็วทันใจ จนเราเองเผลอใจเสพติด Media เหล่านั้นจนถอนไม่ตัวขึ้น

ทั้งงานแพทย์และงานวิจัยจากทั่วทุกมุมโลก ชี้ตรงกันว่าการที่เราให้เวลากับโซเชียลมีเดียมากเกินไป เป็นอันตรายต่อสุขภาพจิต เพราะโลกเสมือนจริงในจอสี่เหลี่ยมเล็กๆ เป็นมุมมองที่สวยเกินความจริง แนะนำว่าเราควรมีช่วงที่หยุดพักบ้าง

หลักง่ายๆ ของการทำ Social Detox คือการเล่นอย่างมีสติและอยู่ในเวลาที่กำหนด บางคนเริ่มตั้งแต่ 7 วัน 15 วัน จนบางคนทำเป็นปีเลยก็มี แต่ถ้าใครรู้สึกว่าเป็นตัวเลขที่สูงเกินไป จะเริ่มต้นลดชั่วโมงในแต่ละวันดูก่อนได้ เพราะแค่เริ่มต้นก็เท่ากับเอาชนะใจตัวเองได้ระดับหนึ่งแล้ว

5 วิธีพักกายพักใจจากโซเชียล

เข้าใจค่ะ ว่าก้าวแรกคือสิ่งที่ยากสุดสำหรับการเริ่มต้น ยิ่งเป็นโทรศัพท์ที่หยิบจับง่ายแล้วล่ะก็ เป็นอะไรที่ห้ามใจยากอยู่เหมือนกัน แต่ด้วยสภาวะจิตใจของหลายๆ คนแล้ว แนะนำให้เริ่มต้นไปพร้อมกับเราเลย ปล่อยไว้นาน ความหดหู่จะอยู่สะสมไปมากกว่านี้ ซึ่งทั้ง 5 วิธีที่เราเลือกมานั้น เราลองทำบางข้อแล้วพบว่าไหวอยู่ (ที่แปลว่าไหวจริงๆ) ไม่หักดิบจนอึดอัดใจเกินไป

1. ชวนเพื่อนทำโซเชียลดีท็อกซ์ไปด้วยกัน

Social-Detox-with-friend

เริ่มต้นด้วยการหาบัดดี้หรือเพื่อนสนิทของคุณสักคน ที่พร้อมจะวางมือลดละเลิกการเล่นโซเชียลมีเดียไปพร้อมๆ กัน อาจจะช่วยวางตารางที่พอจะเป็นไปได้ บอกปัญหาหรือข้อจำกัดของแต่ละคน หรือสาเหตุที่ทำให้เราสนใจเรื่องดราม่าในสังคมออนไลน์

แนะนำให้สร้างข้อตกลงร่วมกัน เพราะขั้นตอนนี้จะนำไปสู่การแข่งขันและความเป็นไปได้ที่มากขึ้น อย่าลืมว่าธรรมชาติของมนุษย์ส่วนใหญ่ รักการเป็นที่หนึ่งและคาดหวังกับสิ่งตอบแทน อาจจะทำกฏขึ้นมาว่า ทุกครั้งที่เราใช้เวลาร่วมกับเพื่อนหรือคนอื่นๆ ห้ามจับมือถือจนกว่าจะแยกย้ายกัน ยกเว้นถ่ายรูป

2. หาให้เจอว่าแอปไหนที่เราใช้บ่อยสุด

เพื่อให้การวางแผนประสบความสำเร็จ ต้องหาต้นตอของปัญหาให้แน่ชัด เริ่มต้นจากการสำรวจพฤติกรรมตัวเอง สังเกตว่าเราเองใช้เวลาหรือเอ็นจอยกับแอปไหนมากที่สุด ใครที่ใช้มือถือระบบปฏิบัติการ iOS สามารถเข้าไปเช็ก Screen Time ได้อยู่แล้ว ส่วนใครที่ใช้แอนดรอยด์อย่าเพิ่งน้อยใจ เช็กได้เหมือนกัน

ตัวเลขเหล่านั้นจะช่วยให้เราแก้ปัญหาได้ตรงจุด ลองดูว่า 5 แอปไหนที่เราใช้งานมากที่สุด แล้วค่อยๆ วางแผน “ลด” เวลาดู ลองเริ่มที่ลดก่อนแล้วถ้าไปถึงขั้น “งด” ได้จะเยี่ยมมาก ครั้นจะให้เริ่มต้นแบบหักดิบก็ดูใจร้ายไปหน่อย แค่เล่นน้อยกว่าที่เคย ก็เป็นสัญญาณที่ดีแล้ว

3. ใช้เวลาพูดคุยกับเพื่อนและครอบครัวให้มากขึ้น

Social-Detox-with-family

“มนุษย์เป็นสัตว์สังคม” มาแต่ไหนแต่ไร สิ่งหนึ่งที่ทำให้ Social Media ได้รับความนิยมอย่างก้าวกระโดด เพราะด้วยความเข้มแข็งของเรื่องราวในนั้น ต้องยอมรับว่าเรามักสนอกสนใจเรื่องของคนอื่น ยิ่งถ้า story เหล่านั้นเต็มไปด้วยกระแสดราม่า

…นั่นคือความจริงและธรรมชาติของมนุษย์

กลับกันเราลองเปลี่ยน Mindset ใส่ใจเฉพาะเรื่องของคนที่โคจรอยู่รอบตัวเราให้มากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นเพื่อนฝูง ครอบครัว คนที่เรารักและคนที่รักเรา เพราะท้ายที่สุดแล้วกลุ่มคนเหล่านั้น น่าจะทำให้เราอบอุ่นใจและอยู่เคียงข้างเรา ได้มากกว่าคนในสังคมออนไลน์ อย่าละเลยจิตใจคนใกล้ตัว

4. ตั้งเวลาจำกัดการใช้งานในแต่ละแอป

Social-Detox-take-time

การทำ Social Detox ไม่ได้หมายถึงการเลิกเล่นโซเชียลแบบถาวร หรือให้แต่ละคนปิดแอคเคาต์ไปเลยแบบหักดิบ การทำแบบนั้นเป็นอะไรที่ทำได้จริงยาก วัดจากตัวเราเองเป็นมาตรฐาน จะให้ตัดอกตัดใจไม่ให้แตะมือถือเลย ก็ดูจะเหงาหงอยอยู่ไม่น้อย

ลองเริ่มต้นด้วยการ “ลด” หรือกำหนดเวลาการเล่นโซเชียลให้น้อยลง สังเกตดูจากในมือถือเราก็ได้ ว่าในแต่ละวันเราใช้เวลาท่องข้อมูลข่าวสารไปกี่ชั่วโมง ค่อยๆ ปรับพฤติกรรมไป น่าจะช่วยให้เราทำใจและมีกำลังใจที่จะทำได้ดีขึ้น

5. ใช้นาฬิกาปลุกให้มากกว่าโทรศัพท์ปลุก

พฤติกรรมเล็กๆ ที่ไม่อยากให้หลายคนมองข้าม สังเกตตัวเองกันไหมคะ ว่าแทบทุกครั้งที่เสียงนาฬิกาปลุกหยุดไป สิ่งที่ทำถัดมา ไม่ใช่การขยับร่างกายลุกไปอาบน้ำ หรือทำกิจวัตรประจำวันต่างๆ อย่างที่ตั้งใจ

เรามักจะเริ่มต้นวันใหม่ ด้วยการนอนไถจอมือถือไปเรื่อยๆ เข้าแอปนั้นออกแอปนี้ วนซ้ำไปซ้ำมาอย่างนั้น จนเสียเวลาไปเป็นชั่วโมงไปโดยไม่รู้ตัว แนะนำให้เปลี่ยนไปใช้นาฬิกาปลุกจริงๆ เลยจะดีกว่า เพื่อไม่ให้เราเผลอใจไปกับโซเชียล เพราะการที่โทรศัพท์อยู่ในมือทั้งที มันก็อดใจยาก

สรุปท้ายบทความ

Social-Detox-Relax

เชื่อว่าทุกการเริ่มต้นและการเปลี่ยนแปลง เป็นอะไรที่ยากเสมอ สำคัญที่ใจของเราว่าจะพร้อมรับกับมันแค่ไหน ช่วงแรกของการทำ Social Detox อาจจะยากสักหน่อย แต่ทั้ง 5 วิธีที่เราแนะนำไปนั้น เชื่อว่าทุกคนเริ่มได้ อาจจะไม่ถึงขึ้นเลิก ลองลดและใช้เวลากับมันให้น้อยลง พยายามให้เวลากับตัวเองและคนที่เรารักให้เยอะขึ้น เพื่อสุขภาพจิตที่เบิกบานขึ้นของตัวเราเอง

สอบถามข้อมูลอื่นๆ หรือสิทธิพิเศษเพิ่มเติม

กรุณาสแกนคิวอาร์โค้ด หรือเพิ่มเพื่อนด้วยไอดีไลน์ @kaideeofficial