ศิลปะไม่จริงจัง ใช้ตกแต่งห้องแนว ๆ

ศิลปะไม่จริงจัง ใช้ตกแต่งห้องแนว ๆ

สรุปบทความ

การใช้ศิลปะมาตกแต่งห้องนั้น ง่ายกว่าที่คิด เราไม่จำเป็นต้องมีฝีมือ พรสวรรค์ หรือมีเงินมหาศาล เพื่อซื้อศิลปะชิ้นโบแดงแต่อย่างใด มีศิลปะหลายแขนง ที่เราสามารถลองทำกันได้เองที่บ้าน แถมยัง ‘ไม่ต้องตั้งใจทำมากมาย’ งง กันใช่ไหมคะ ว่าศิลปะแบบไหนที่ไม่ต้องตั้งใจทำ ศิลปะแบบไหนที่ไม่จำเป็นต้องมีพรสวรรค์ช่วย งั้นมาดูกันเลย

การแต่งห้อง ทำได้หลายวิธี ไม่ว่าจะเป็นวิธีง่ายๆ อย่าง การใช้ต้นไม้เล็กๆ เพื่อเพิ่มพื้นที่สีเขียว และความร่มรื่น, การคุมโทนสีเฟอร์นิเจอร์ เพื่อให้ธีมทั้งห้องไปในทางเดียวกัน หรือการใช้โปสเตอร์แปะที่ผนัง เพื่อถ่ายทอดความชอบส่วนตัว ในขณะเดียวกันก็เพิ่มบุคลิกให้กับห้องของเรา เป็นต้น

แต่เพื่อนๆ คะ มันมีอีกหนึ่งวิธีง่ายๆ ที่เราสามารถเปลี่ยนบรรยากาศห้องไปได้สิ้นเชิง แถมยังเพิ่มความยูนิคให้กับห้องของเรา ให้เราดูเป็นหนุ่มสาว “Artsy” มีสไตล์ และวิธีนั้นก็คือการใช้ ‘ศิลปะ’ ช่วยนั่นเองค่ะ

ขอบคุณรูปจาก designcrushblog

ตกแต่งห้องด้วย “ศิลปะ”

พูดถึง ‘ศิลปะ’ หลายคนคงนึกถึงภาพวาดของศิลปินระดับโลกอย่าง Da Vinci, Picasso, หรือ Van Gogh กันแน่เลย แน่นอนว่าถ้าเราเอาผลงานของพวกเขาเหล่านั้นมาตกแต่งห้อง ห้องเราคงจะดูมีเทส และสวยขึ้นไม่น้อย

แต่เพื่อนๆ คะ แล้วห้องเราจะต่างอะไรกับพิพิธภัณฑ์ศิลปะทั่วไปล่ะคะ ตรงไหนเหรอที่บ่งบอกความเป็นเรา 

แต่ถ้าหากว่า เราสร้างงานศิลปะขึ้นมาเองเลยล่ะ เราจะทำได้ไหมนะ……

เข้าใจค่ะ ว่าไม่ใช่ทุกคนจะมีพรสวรรค์ แบบจับพู่กันครั้งแรก ก็สร้างสรรค์ผลงานสวยงามแบบติดผนังห้องโชว์กันได้ วันนี้เราจึงรวบรวมศิลปะหลายแขนงที่สามารถลองทำกันเองได้ง่ายๆ โดยวาดลวดลายไปบนกระดานได้อย่างไม่ต้องคิดมาก ผลลัพธ์นั้นจะสวยหรือเปล่าอยู่ที่มุมมอง 
แต่รับรองได้เลยว่างานนี้มี อาร์ตแตก แน่นอน เรามาเริ่มกันที่ศิลปะแบบแรกกันเลย

1. ศิลปะแบบ Fauvism (โฟวิสม์)

Artist: Henri Matisse
ขอบคุณรูปจาก theartstory

คำว่า ‘โฟวิสม์’ มาจากคำว่า fauves ซึ่งเป็นภาษาฝรั่งเศสแปลว่า ‘สัตว์ป่า’ เริ่มแรก โฟวิสม์ ไม่ใช่คำที่ใช้เรียกรูปแบบผลงานศิลปะ แต่เป็นคำที่ใช้เรียกกลุ่มศิลปิน ที่มีผลงานศิลปะไปในรูปแบบเดียวกัน และในเวลาเดียวกัน 

ผลงานแบบ โฟวิสม์ จะเน้นการถ่ายทอดอารมณ์ของศิลปิน ดังนั้นภาพวาดจะมีรูปทรงอิสระ ลายเส้นเกิดจากลวดลายลีลาของปลายพู่กันมากกว่าการวัดซะส่วนให้สมดุลกันเหมือนศิลปะแขนงอื่นๆ 

ส่วนสีจะเน้นสีฉูดฉาด สดใส โดยใช้แม่สีเป็นสีหลัก เพื่อให้สีในภาพตัดกันชัดเจน สิ่งที่บ่งบอกถึงศิลปะแขนง โฟวิสม์ ได้ชัดเจนที่สุดก็คือ การเลือกใช้สีโดยไม่คำนึงถึงความเสมือนจริงทางธรรมชาติ เช่น ท้องฟ้าสีแดง หรือพระจันทร์สีน้ำเงิน เป็นต้น  

การวาดภาพแบบ Fauvism (โฟวิสม์)

Artist: Henri Matisse

การวาดภาพแบบ โฟวิสม์ ข้อดีคือมันไม่มีขั้นตอน หรือวิธีการอย่างเป็นทางการ ไม่มีการเบลอหน้า เบลอหลัง  หรือพยายามทำให้รูปวาดเป็นภาพ 3 มิติแต่อย่างใด เรียกง่ายๆ ว่า เป็นการวาดภาพ และการเพ้นท์แบบแบนนั่นเอง ดังนั้นให้เพื่อนๆ เน้นอารมณ์การถ่ายทอดปัญหาทางสังคมลงบนแผ่นกระดาษ ใช้พู่กันขนาดหนา ใช้แม่สีหลัก จากนั้นก็ลุยได้เลย!

เทคนิค

  1. ใช้พู่กันแบบหนา เพื่อให้ได้ลายเส้นที่ไม่ละเอียด  
  2. สีที่ใช้จะเป็นสีอะคริลิค (Acrylics) เพราะสีอะคริลิคมีคุณสมบัติแห้งเร็ว 

เน้นใช้แม่สีที่ประกอบไปด้วยสีอบอุ่นและสีเย็น เพื่อให้เกิดการตัดกันของสี และทำให้ภาพวาดดูตื่นเต้น ไม่ดูเป็นสีโทนเดียวกันเกินไป  

  • สีโทนอุ่น ได้แก่ แดง ส้ม และเหลือง
  • สีโทนเย็น ได้แก่ ฟ้า เขียว ม่วง และน้ำเงิน 
  • สีหลักสำคัญ ได้แก่ ขาว และดำ

โดยใช้สีโทนอุ่นในการไฮไลท์ และใช้สีโทนเย็นในการแรเงา ซึ่งการทำเช่นนี้ ภาพจะไม่ทำให้ภาพดูแบนราบเกินไป

  1. ร่างรูปด้วยสีดำ หรือสีน้ำเงินเข้ม และใช้จังหวะเด็ดขาด กล้าได้กล้าเสีย 
  2. อย่ากังวลเรื่องความละเอียดของภาพ ให้ใช้ความรู้สึกเป็นหลัก 

เท่านี้ก็จะได้ รูปวาดแบบ โฟวิสม์ ไว้ตกแต่งห้องแล้วค่ะ

ตัวอย่างศิลปะ โฟวิสม์

Artist: Maurice de Vlaminick
Artist: Maurice de Vlaminick
ภาพวาด ตัวเอง (Self Portrait) ซ้าย: Henri Matisse / ขวา: Ernst Ludwig Kirchner

2. เซรามิกของ Bettunika (Bettunika’s Ceramic Art)

ขอบคุณรูปจาก departures

เพื่อนๆ คงคุ้นหน้าคุ้นตากับ ‘ศิลปะเซรามิก’ กันมาพอสมควร เพราะไม่ว่าเราจะไปที่ไหน ก็มักจะเจอมันเสมอ เพราะนอกจากเราจะเอาเซรามิกมาเป็นของตกแต่งห้องสวยๆ แล้ว ยังใช้งานได้อีกด้วย 

แต่มีน้อยคนนะคะ ที่รู้จักผลงานเซรามิกของ Bettunika ศิลปินสาวชาวเดนมาร์กคนนี้ เธอเป็นที่โด่งดังเอามากๆ ในโซเชียลมีเดีย ซึ่งผลงานเซรามิกของเธอ ไม่ว่าจะเป็นแก้ว แจกันดอกไม้ หรือจาน ก็เป็นที่พูดถึง ถึงขั้นที่นิตยสาร Vogue รีบจองตัวของเธอไปสัมภาษณ์กันเลยทีเดียว 

จุดเด่นของงานเซรามิกของเธอคือ รูปทรงที่บูดเบี้ยว สีสันโทนพาสเทล และลวดลาย Child-Like ให้ฟิลเหมือนผลงานของน้องๆ อนุบาล ตามแบบในรูปเลย

Instagram // @bettunika 

การปั้นเซรามิกแบบ Bettunika 

เมื่อเทียบกับศิลปะแบบ โฟวิสม์ แล้ว แน่นอนว่าการปั้นเซรามิกต้องอาศัยทักษะและความชำนาญมากกว่าพอสมควร การปั้นเซรามิกขึ้นมาสักอัน ประกอบไปด้วย 3 ขั้นตอนหลักๆ นั่นก็คือ การขึ้นรูป การเผา และการเคลือบ ส่วนการเพ้นท์เซรามิกนั้น ความรู้เรื่องสี เทคนิคการผสมสี รวมไปถึงทักษะการเพ้นท์นั้น ก็สำคัญ เพราะกว่าเราจะรู้หน้าตาผลงานจริงๆ ก็ตอนที่มันออกมาจากเตาเป็นที่เรียบร้อย

เทคนิค

ถึงขั้นตอนมันจะยุ่งยากสักนิด แต่นี่ก็ไม่ได้หมายความว่า มือสมัครเล่นอย่างเราจะปั้นเซรามิกกันเองไม่ได้นะ   

  1. เตรียมวัตถุดิบสำคัญ นั่นก็คือ ‘ดิน’ ซึ่งสามารถใช้ดินได้ 2 ประเภท 
  • ดินเหนียว หรือ ดินบอลเคลย์ (Ball Clay) 
  • ดินขาว หรือ ดินเกาลิน (Kaolin)
  1. สำหรับมือสมัครเล่น สามารถขึ้นรูปโดยการใช้มือปั้นเป็นรูปทรงตามต้องการได้เลย 
  2. วิธีทำให้ดินมีขนาดบางลง เรียกว่า ‘รีดดิน’ สามารถทำได้โดยการเอามือไปชุบน้ำให้เปียก แล้วลูบลงไปที่ตัวดิน หน้าดินจะมีผิวเรียบ และบางขึ้น 
  3. จากนั้นให้ลงสีได้เลย ประเภทสีที่ใช้คือ สีผสมน้ำดิน 

ซึ่งความยากของการใช้สีผสมน้ำดิน คือทุกสีจะมีหน้าตาเป็นสีน้ำตาลไปหมด ดังนั้นต้องใช้สมาธิ และจินตนาการสูงมาก

  1. นำไปเผาที่อุณหภูมิ 110 – 120°C ให้ความชื้นที่ชิ้นงานระเหยออก จนแห้ง
  2. หลังจากเผาเสร็จ ให้นำเซรามิกมาเคลือบ โดยใช้สารเคลือบเซรามิก เป็นชั้นหนาประมาณ 1-1.5 มม. 
  3. จากนั้น นำชิ้นงานกลับเข้าเตาเผาอีกรอบ เพื่อทำให้ผิวชั้นเคลือบ กลายเป็นแก้วมันวาวอยู่กับผิวดิน

ตัวอย่างเซรามิกของ Bettunika 

Instagram // @bettunika 
Instagram // @bettunika 
Instagram // @bettunika 

อยากลองปั้นกันบ้างแล้วใช่ไหม ตอนนี้เรามี Workshop สอนปั้นเซรามิก เปิดให้ลองกันแล้วนะคะ 

หนึ่งในร้าน Workshop สอนปั้นเซรามิกสุดชิค ซึ่งนอกจากจะเป็นเวิร์กช็อปแล้ว ยังเป็นร้านคาเฟ่ และแกลเลอรี่โชว์ผลงานเซรามิกสวยๆ ไปในตัวอีกด้วย 

ร้านนี้มีชื่อเก๋ๆ ว่า “A Clay Ceramic (อะ-เคลย์-เซรามิก)” 

ซึ่งตั้งอยู่ที่ 50 ซอยสาทร 8  เปิดทุกวัน (ยกเว้นวันพฤหัสบดี)  เวลา 10:00 – 17:30 น 

ที่สำคัญ ที่นี่เขามีคอร์สให้เลือกหลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นคอร์สสำหรับ 1 วัน ซึ่งสามารถปั้น และเพ้นท์เซรามิกได้เสร็จภายในเวลาแค่ 4 ชม. หรือถ้าใครมีเวลาว่าง คอร์ส 2 วัน ก็น่าสนใจ เพราะเขาจะใช้วันแรกโฟกัสกับการขึ้นรูปเซรามิก และวันที่ 2 นั้นจะถูกใช้ไปกับการเพ้นท์อย่างเดียว เรียกได้ว่าเจาะลึกกันแบบสุดๆ และถ้าใครไม่อยากปั้น ที่นี่เขาก็มีคอร์สเพ้นท์อย่างเดียวให้เลือกด้วยนะ 

ดูผลงานตัวอย่างจากนักเรียนของ A Clay Ceramic เขาซะก่อน เจ๋งไปเลยใช่ไหม

Facebook// @aclayceramic
Facebook// @aclayceramic

สายมินิมอล มีงานอดิเรกเป็นคาเฟ่ฮอบปิ้ง และกำลังหากิจกรรมแฮงเอาท์กับเพื่อนสนุกๆ รออะไรอยู่คะ อ่านบทความนี้จบ รีบโทรจองคิวเลย

3. ศิลปะแบบ Suprematism (ซูพรีมาตีสม์)

ขอบคุณรูปจาก museothyssen

จุดเด่นของศิลปะ ซูพรีมาตีสน์ คือการให้อิสระกับผู้ชมผลงาน ไม่ปิดกั้นความคิด ทั้งรูปทรง ลายเส้น และเรื่องราวในภาพวาด ตามแบบอย่างที่ศิลปินต้องการให้เป็น นับว่าเป็นศิลปะที่เปิดโอกาสให้ผู้ชมตีความได้อย่างไร้ขีดจำกัด 

การวาดภาพแบบ Suprematism (ซูพรีมาตีสม์)

Artist: Kazimir Malevich

ศิลปะแบบ ซูพรีมาตีสน์ จะเน้นการเว้นช่องไฟ และพื้นที่ว่าง ซึ่งจะแตกต่างจากศิลปะแบบ โฟวิสม์ อย่างสิ้นเชิง เพราะศิลปะแบบ ซูพรีมาตีสน์ จะมีลักษณะเป็นรูปทรงเรขาคณิต เป็นสัดเป็นส่วนชัดเจน อยู่ภายใต้รูปทรงเรขาคณิตแบบง่าย เช่น สามเหลี่ยม สี่เหลี่ยม วงกลม หรือกากบาท

อย่างที่บอกไปตอนต้นว่าศิลปะแบบ ซูพรีมาตีสน์ เป็นศิลปะที่เปิดกว้างให้ผู้ชมตีความกันเอาเอง ดังนั้นศิลปินสามารถวาดลวดลายได้ตามใจชอบ ไม่จำเป็นต้องมีความหมายแฝงแต่อย่างใด

เทคนิค

  1. รูปแบบของพู่กันสามารถเลือกได้ตามใจ หากต้องการความละเอียด ให้ใช้พู่กันแบบแบน
  2. ประเภทของสี นิยมใช้เป็นสีอะคริลิค หากต้องการให้เนื้องานมีความหยาบ แนะนำให้ใช้เป็นสีน้ำมัน

เพื่อความโดดเด่น ศิลปินนิยมเลือกใช้สีคู่ตรงข้าม เช่น 

  • น้ำเงิน กับ ส้ม
  • เหลือง กับ ม่วง 
  • แดง กัน เขียว 
  1. เนื่องจากศิลปะแขนง ซูพรีมาตีสน์ เป็นศิลปะที่มีการกะสัดส่วนชัดเจน ดังนั้น ขณะวาด และลงสี ควรแปะเทปใส เพื่อเป็นการกั้นช่องไฟ เพิ่มความคมของเส้น และป้องกันไม่ให้สีไปโดนกัน

ตัวอย่างศิลปะ ซูพรีมาตีสม์

Artist: Kazimir Malevich
Artist: McArthur Binion
Artist: David Diao

สรุปท้ายบทความ 

ศิลปะทั้ง 3 ประเภทที่นำเสนอในวันนี้ เป็นเพียงแค่ตัวอย่างศิลปะที่สามารถลองทำเองได้ที่บ้าน ไม่จำเป็นต้องใช้ทักษะ หรือพรสวรรค์ระดับ Picasso ก็สามารถได้งานสวยๆ ที่สามารถนำมาตกแต่งห้องให้โดดเด่นได้ไม่เหมือนใคร

“ศิลปะ” ไม่มีผิด ไม่มีถูก ไม่มีคำว่าสวย ไม่มีคำว่าเลอะเทอะ ทุกอย่างอยู่ที่มุมมอง เพราะฉะนั้นถ้าเพื่อนๆ อยากลองวาดรูป ละเลงสีกันดูบ้าง ทำเลยค่ะ ชีวิตเรานั้นสั้นเกินกว่าที่จะเสียเวลากับการกลัวเสียเวลา

แต่ถ้าใคร ไม่มีเวลาจริงๆ แวะเข้ามาชม ของตกแต่งบ้านที่ Kaidee ได้นะคะ เรามีทั้งภาพวาดสวยๆ ของตกแต่งทุกแบบ ทุกแนว ให้เลือกสรรกันอย่างเต็มที่เลย 

สอบถามข้อมูลอื่นๆ หรือสิทธิพิเศษเพิ่มเติม

กรุณาสแกนคิวอาร์โค้ด หรือเพิ่มเพื่อนด้วยไอดีไลน์ @kaideeofficial