English translation for this page is currently unavailable. We are working on it, stay tuned!

ขออภัย
คุณยังไม่สามารถดูประกาศนี้ได้ในขณะนี้

เหรียญเจ้าทรัพย์ มหาเศรษฐี ปี 2534 (เจ้าสัว)
หลวงปู่คำ วัดหนองแก ประจวบคีรีขันธ์ รูปที่ 1

เหรียญเจ้าทรัพย์ มหาเศรษฐี ปี 2534 (เจ้าสัว)
หลวงปู่คำ วัดหนองแก ประจวบคีรีขันธ์ รูปที่ 2

เหรียญเจ้าทรัพย์ มหาเศรษฐี ปี 2534 (เจ้าสัว)
หลวงปู่คำ วัดหนองแก ประจวบคีรีขันธ์ รูปที่ 3

เหรียญเจ้าทรัพย์ มหาเศรษฐี ปี 2534 (เจ้าสัว)
หลวงปู่คำ วัดหนองแก ประจวบคีรีขันธ์ รูปที่ 4

เหรียญเจ้าทรัพย์ มหาเศรษฐี ปี 2534 (เจ้าสัว)
หลวงปู่คำ วัดหนองแก ประจวบคีรีขันธ์ รูปที่ 5

1 / 6

เหรียญเจ้าทรัพย์ มหาเศรษฐี ปี 2534 (เจ้าสัว) หลวงปู่คำ วัดหนองแก ประจวบคีรีขันธ์

฿ 1,500

ลงขายโดยNowing11

รายละเอียดสินค้า

ประวัติการสร้างเหรียญเจ้าทรัพย์มหาเศรษฐี ปี 2534หลวงปู่คำ วัดหนองแก ประจวบคีรีขันธ์พิธีพุทธาภิเษก 2 ครั้ง-ครั้งแรก หลวงปู่คำ วัดหนองแก ท่านได้ปลุกเสกเดี่ยวถึง 1 ไตรมาส-ครั้งที่สอง เสาร์ที่ 28 ธันวาคม 2534 ภายในอุโบสถ วัดหนองแก ด้วยเกจิชื่อดังหลายท่าน ดังนี้1.หลวงปู่คำ วัดหนองแก (ประธานจุดเทียนชัยและนั่งปรก)2.หลวงปู่สด พุทธาภิรัตน์ วัดห้วยสิงห์ ราชบุรี3.หลวงพ่อแอ๊ว สมสุโท วัดหนองพุก ประจวบคีรีขันธ์4.หลวงพ่อพูน วัดไผ่ล้อม นครปฐม (เป็นผู้ดับเทียนชัยและนั่งปรก)5.หลวงพ่อสง่า วัดหนองม่วง ราชบุรี6.หลวงพ่อเล็ก วัดหนองดินแดง นครปฐม7.พระอธิการสุพจน์ วัดบ้านใหม่เหนือ8.หลวงพ่อทา วัดสองห้อง นครปฐม9.หลวงพ่อแผ่ว วัดโตนดหลวง เพชรบุรี10.หลวงพ่อเงิน วัดถ้ำน้ำ ราชบุรี-ในระหว่างพิธีพุทธาภิเษก ได้เกิดปฏิหาริย์เสียงฟ้าคำรามกึกก้องถึง 2 ครั้ง ภายในอุโบสถลั่นสะเทือนเลือนลั่น-เมื่อเสร็จพิธี หลวงพ่อเล็ก วัดหนองดินแดง ได้บอกลูกศิษย์ว่า พิธีในครั้งนี้ศักดิ์สิทธิ์มาก และครบถ้วนตามรูปแบบโบราณทุกประการ-ปฏิหาริย์การหล่อเหรียญเจ้าทรัพย์มหาเศรษฐี โดยนาย สุเทพ (ยู้) โสทรประทาน ช่างหล่อพระชื่อดังนครปฐม เล่าว่าในขณะเททองชนวนต่างๆ ได้เกิดเปลวไฟพุ่งขึ้นมาจากเบ้าหลอมทอง เป็นประกายโชติช่วงหลากหลายสี และมีเสียงดังคล้ายพุระเบิด 3 ครั้ง และประกายเป็นสะเก็ดเหมือนดอกไม้ไฟ เป็นที่อัศจรรย์ยิ่งนักชนวนมวลสารการสร้างวัตถุมงคลในครั้งนี้ ประกอบด้วย ดังนี้1.ชนวนจากวัดกลางบางแก้ว ต้นแบบเหรียญเจ้าสัวหลวงปู่บุญ2.ชนวนจากวัดปฐมเจดีย์3.ชนวนจากหลวงพ่อเพชร วัดท่าหลวง4.ชนวนหล่อพระกริ่ง วัดสุทัศน์5.ห่วงเหรียญจากพระเกจิทั่วทุกภูมิภาค นำหนัก 5กิโลกรัม*หมายเหตุ-วัตถุมงคลที่ร่วมปลุกเสก ในครั้งนี้1.เหรียญเจ้าทรัพย์หลวงปู่คำ วัดหนองแก2.เหรียญพญาเต่าเรือนหลวงปู่คำ อยู่ยงยั่งยืน วัดหนองแก3.พระกริ่งรูปเหมือนปั๊ม รุ่นแรก4.พระคงเนื้อผง*************************************ประวัติโดยสังเขป-หลวงปู่คำ สุวณณโชโต หรือ พระครูประสิทธิวรการ อดีตเจ้าอาวาสวัดหนองแก อำเภอหัวหิน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ท่านได้ชื่อว่าเป็นพระสงฆ์ ๕ แผ่นดินครับ เชื่อกันว่านอกจากหลวงปู่คำท่านจะเป็นพระที่มีวาจาศักดิ์สิทธิ์แล้ว ท่านยังเป็นพระที่มีหูทิพย์ ตาทิพย์และสามารถรับรู้เรื่องราวความเป็นไปต่างๆ ด้วย “เจโตปริยญาณ” -เจโตปริยญาณ เป็นเรื่องของความสามารถพิเศษที่มีเหนือเกินกว่ามนุษย์ธรรมดาอย่างเราๆ ท่านๆ จะทำได้ครับ ซึ่งการจะได้มาของความสามารถพิเศษนี้ ผู้ที่ได้จะต้องผ่านการฝึกอบรมจิตเจริญปัญญาหรือบำเพ็ญสมาธิวิปัสสนากรรมฐานอย่างเอกอุจนถึงขั้นได้อภิญญา -ต้องบอกว่าอภิญญาไม่ใช่เรื่องง่ายครับ เพราะถ้าเป็นแบบนั้น ป่านนี้บ้านเราคงมีคนหูทิพย์ ตาทิพย์กันเต็มไปหมด ซึ่งถ้าว่ากันตามเนื้อผ้าแล้วต้องบอกว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องเฉพาะบุคคลจริงๆ -สำหรับผมแล้วต้องบอกว่าสิ่งที่น่าสนใจที่สุดไม่ได้อยู่ตรงที่ว่าหลวงปู่คำท่านเป็นพระอภิญญาหรือเป็นพระเกจิที่เสกของแล้วขลัง(เพราะเรื่องนี้ผมเป็นพวกเชื่อฝังใจอยู่แล้ว) หากแต่ความน่าสนใจอยู่ตรงที่ว่า กว่าหลวงปู่คำท่านจะได้ความสามารถพิเศษแบบนี้มานั้น ท่านต้องผ่านอะไรมามากกว่า ซึ่งประเด็นนี้เราต้องย้อนอดีตกันไปไกลถึงบ้านหนองแกในสมัยรัชการที่ ๕ ครับ -หลวงปู่คำ สุวณณโชโต ท่านเกิดปีมะเส็ง พ.ศ.๒๔๓๖ (รัชสมัยของพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว) ณ บ้านหนองแก อำเภอหัวหิน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ บิดามารดาชื่อ นายอิ่มและนางแจ้ง สุขศรี -คำสอนอันประเสริฐที่ว่า ทุกสรรพสิ่ง ล้วนเกิดขึ้น ตั้งอยู่ เปลี่ยนแปลง แล้วดับไปทั้งสิ้น ทุกอย่างเป็นอนิจจัง ทุกขัง อนัตตา ทุกๆชีวิต จะหลีกเลี่ยงไม่ได้ ยังคงเป็นกฎธรรมชาติที่บอกถึงสัจจธรรมอันแท้จริงและทันสมัยอยู่เสมอ..-หลวงปู่คำ สุวณณโชโต ท่านได้มรณภาพอย่างสงบเมื่อวันที่ ๑๔ กุมภาพันธ์ ๒๕๔๐ สิริอายุ ๑๐๔ ปี ๘๑ พรรษา นับได้ว่าท่านเป็นพระสุปฏิปันโนที่มีอายุยืนยาวนานรูปหนึ่งของเมืองไทย -เรื่องราวความมหัศจรรย์ในด้านต่างๆ ของท่านเช่นการหยั่งรู้เรื่องราวต่างๆ หรือความเป็นพระที่มีวาจาศักดิ์สิทธิ์ ฯลฯ ล้วนเกิดจากบารมีที่สั่งสมมาจากการฝึกฝนและปฏิบัติมาตลอดชีวิตของท่าน -ทุกวันนี้เรื่องราวของท่านอาจจะลืมเลือนไปบ้างจากส่วนกลาง แต่กับชาวบ้านหัวหินไม่มีใครลืมท่านหรอกครับ เพราะท่านได้รับการยกย่องว่าเป็น “เทพเจ้าแห่งหัวหิน” เชื่อกันว่าไม่ว่าจะอยู่ที่ใดขอเพียงได้น้อมจิตไปที่ท่านก็ถือเป็นมงคลสำหรับชีวิตแล้วอ่านเพิ่มเติม