English translation for this page is currently unavailable. We are working on it, stay tuned!
menu-iconKaidee logo
chat
หลวงพ่อพระใส วัดโพธิชัย รูปที่ 1
หลวงพ่อพระใส วัดโพธิชัย รูปที่ 2
หลวงพ่อพระใส วัดโพธิชัย รูปที่ 3
หลวงพ่อพระใส วัดโพธิชัย รูปที่ 4
หลวงพ่อพระใส วัดโพธิชัย รูปที่ 5
หลวงพ่อพระใส วัดโพธิชัย รูปที่ 6
1 / 6

หลวงพ่อพระใส วัดโพธิชัย

฿ 3,900

รายละเอียดสินค้า

เปิดให้บูชา 💖💖💖 3900 บาท 💖💖💖 No.15046 🙏🙏หลวงพ่อพระใส วัดโพธิชัย อ.เมือง จ.หนองคาย รุ่นเพิ่มบารมี โลหะ หน้าตัก 5 นิ้ว ฐาน 8.5 นิ้ว สูง 12.5 นิ้ว ปี พ.ศ. 2564#พระบูชา#พระขนาดบูชา#พระแท้บูชาแล้วสบายใจ⚜️⚜️หลวงพ่อพระใส พระคู่บ้านคู่เมืองชาวหนองคายวัดโพธิ์ชัย 873 ถ.ประจักษ์ศิลปาคม อ.เมือง จ.หนองคาย เป็นพระอารามหลวงชั้นตรี ชนิดสามัญ เมื่อวันที่ 24 สิงหาคม พ.ศ.2524 สังกัดคณะสงฆ์มหานิกาย เดิมชื่อ วัดผีผิว เนื่องจากบริเวณวัดนี้ใช้เป็นที่เผาศพ และมีผีดุมาก ต่อมาทางราชการได้เปลี่ยนชื่อให้ใหม่ เป็นวัดโพธิ์ชัยหลวงพ่อพระใส ประดิษฐานเป็นพระประธานในพระอุโบสถ เป็นพระพุทธรูปปางมารวิชัยขัดสมาธิราบ สมัยเชียงแสนชั้นหลัง หล่อด้วยทองสุก (ทองคำบริสุทธิ์ ประมาณ 92 % สีทองคำมีสีเหลืองเข้ม เรียกว่า สีทองสุก) มีพุทธลักษณะงดงามมาก ขนาดหน้าตักกว้าง 2 คืบ 8 นิ้ว สูงจากเบื้องล่างพระชงฆ์ ถึงยอดพระเกศ 4 คืบ 1 นิ้ว มีห่วงกลมขนาด หัวแม่มือจำนวน 3 ห่วง ติดกับพระแท่นซึ่งหล่อติดกับองค์พระ สำหรับผูกเชือกติดกับยานสมเด็จกรมพระยาดำรงราชานุภาพ ทรงสันนิษฐานไว้ในหนังสือประวัติพระพุทธรูปสำคัญ ซึ่งพิมพ์แจกในงานทอดกฐินพระราชทาน พ.ศ. 2468 ว่า พระใส เป็นพระพุทธรูปหล่อในสมัยล้านช้างที่ประดิษฐานพระสุก พระเสริม พระใส คราวแรกประดิษฐานอยู่ ณ เมืองเวียงจันทร์ นานเท่าไรไม่ปรากฏ ครั้นพ.ศ 2321 ในรัชสมัยพระเจ้ากรุงธนบุรี ได้เกิดสงคราม ขึ้นระหว่างกรุงธนบุรีกับกรุงศรีสัตนาคนหุต(เวียงจันทร์) ครั้งนั้นสมเด็จเจ้าพระยามหากษัตริย์ศึก (ร.1) เป็นแม่ทัพมาตีเวียงจันทร์ เมืองเวียงจันทร์จึงเกิดยุคเข็ญขึ้น พระเจ้าธรรมเทวงศ์จึงได้อัญเชิญไปไว้ที่เมืองเชียงคำ ครั้นต่อมาพระใสถูกอัญเชิญกลับมาที่เวียงจันทร์ดังเดิมในสมัยพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว (ร.3) เจ้าอนุวงศ์ เมืองเวียงจันทน์ก่อกบฎ พระองค์จึงโปรดให้ สมเด็จพระบวรราชเจ้ามหาศักดิ์พลเสพย์ นำทัพมาปราบ เมื่อเสร็จศึกแล้วได้อัญเชิญพระสุก พระเสริม และพระใส ลงมาด้วย โดยอัญเชิญมาจากภูเขาควาย ขึ้นประดิษฐานบนแพไม้ไผ่ ซึ่งผูกติดกันอย่างมั่นคงล่องมาตามลำน้ำงึม เมื่อล่องมาถึงตรงบ้านเวินแท่นในขณะนั้น เกิดอัศจรรย์แท่นของพระสุกได้เกิดแหกแพจมลงไปในน้ำ โดยเหตุที่มีพายุพัดแรงจัด และบริเวณนั้นได้นามว่า "เวินแท่น"การล่องแพก็ยังล่องมาจนถึงน้ำโขง (ปากน้ำงึม) อ.โพนพิสัย จ.หนองคาย ได้เกิดพายุใหญ่ ทำให้พระสุกได้แหกแพจมลงไปในน้ำ ซึ่งอาการวิปริตต่างๆ ก็ได้หายไปเป็นอัศจรรย์ยิ่ง บริเวณนั้นจึงได้ชื่อว่า "เวินสุก" และพระสุกก็จมอยู่ในน้ำตรงนั้นมาจนถึงปัจจุบันนี้ยังเหลือแต่พระเสริม พระใส ที่ได้นำขึ้นมาถึงเมืองหนองคาย พระเสริมนั้นได้ถูกอัญเชิญประดิษฐานไว้ ณ วัดโพธิ์ชัย ส่วนพระใส ได้อัญเชิญประดิษฐานไว้ ณ วัดหอก่อง(ปัจจุบันคือวัดประดิษฐ์ธรรมคุณ)ต่อมาในสมัยพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว (ร.4) จึงโปรดเกล้าฯ ให้ขุนวรธานีและเจ้าเหม็น (ข้าหลวง) อัญเชิญพระเสริม และพระใสลงมากรุงเทพฯ แต่พอพระใสมาถึงวัดโพธื์ชัย ได้แสดงปาฏิหาริย์จนเกวียนหักจึงอัญเชิญลงไปไม่ได้ ได้แต่พระเสริมลงกรุงเทพฯ ประดิษฐาน ณ วัดปทุมวนาราม ส่วนหลวงพ่อพระใสได้อัญเชิญประดิษฐาน ณ วัดโพธิ์ชัย อ.เมืองหนองคาย จนถึงปัจจุบัน เป็นความอัศจรรย์ของพระใส จนได้สมญาว่า "หลวงพ่อเกวียนหัก"เมื่อปี พ.ศ. 2481 พระเศียรของหลวงพ่อพระใส ถูกขโมยตัดเอาไปจึงต้องประกอบพิธีหล่อพระเศียรขึ้นมาใหม่⚜️⚜️ตำนาน หลวงพ่อพระใสมีธิดา 3 พระองค์แห่งกษัตริย์ลานช้างเป็นเจ้าศรัทธา ทั้งหมดเป็นพี่น้องร่วมพระวงศ์เดียวกัน (บ้างว่าเป็นธิดาของพระไชยเชฏฐาธิราช) มีพระนามตามลำดับว่า สุก เสริม ใส มีพระทัยร่วมกันเป็นเอกฉันท์ในอันที่จะหล่อพระพุทธรูปประจำองค์ จึงได้พร้อมกันขอพรจากพระบิดาพระบิดาประทานพรให้ จึงให้ช่างหล่อพระพุทธรูปขึ้น 3 องค์ ขนาดลดกันตามลำดับ ครั้นแล้วจึงขนานนามพระพุทธรูปเหล่านั้นโดยขอฝากพระนามของตนเองไว้ด้วยว่า พระสุก (ประจำผู้พี่ใหญ่) พระเสริม(ประจำคนกลาง) พระใส (ประจำคนเล็ก)ในการทำพิธีหล่อนั้นทั้งทางบ้านและทางวัดได้ช่วยกันเป็นการใหญ่โต มีคนทำการสูบเตาหลอมทองอยู่ไม่ขาดระยะ นับเป็นเป็นเวลา 7 วันแล้วทองก็ยังไม่ละลาย ถึงวันที่ 8 เวลาเพล เหลือพระภิกษุแก่ กับเณรน้อยรูปหนึ่งทำการสูบเตาอยู่ ในขณะนั้นได้ปรากฎมีชีปะขาวตนหนึ่งมายังที่นั้น และขอทำการสูบเตาช่วย ซึ่งพระภิกษุก็มิได้ขัดข้อง เมื่อชีปะขาวทำการสูบเตาแทนแล้ว พระภิกษุและสามเณรก็ได้ขึ้นไปฉันเพลบนศาลา ญาติโยมแลเห็นคนสูบเตามากกว่าปกติท่อเตาก็มีมาก แต่ละคนเป็นชีปะขาวเหมือนกันหมด ด้วยความอัศจรรย์ใจยิ่งจึงได้ถามพระภิกษุ แต่พระภิกษุแลไปก็เห็นเพียงชีปะขาวรูปเดียวเท่านั้น พอฉันเพลเสร็จ คนทั้งหมดก็พากันลงมาดู ครั้นถึงก็เกิดความอัศจรรย์ใจยิ่ง เพราะเหตุที่ได้เห็นทองทั้งหมดถูกเทลงในเบ้าทั้ง 3 เบ้าเรียบร้อย และไม่เห็นชีปะขาวนั้นเลยสักคน


ดูพระองค์อื่นๆ ใน Kaidee คลิ๊กที่ชื่อ พระสะสม นายพัฒนายุหรือ ในเพจhttps://www.facebook.com/Pattanayuuu/
อ่านเพิ่มเติม
  • สภาพสินค้ามือหนึ่ง
  • ลงขายเมื่อ11 ธ.ค. 2565 16:37 น.
  • ตำแหน่งประกาศสวนหลวง กรุงเทพมหานคร
  • หมายเลขประกาศ367259835
แจ้งประกาศไม่เหมาะสม
กรุณาอย่าโอนเงินไม่ว่ากรณีใดๆ
หากต้องการโอนเงินหรือมัดจำล่วงหน้า
ตรวจสอบบัญชีคนโกง ที่นี่

สินค้าที่คุณอาจจะสนใจ'

ดูเพิ่มเติม

ติดต่อเรา

บริษัท จูอาโล่ มาร์เก็ตเพลส จำกัดเลขที่ 191/22-25 อาคารซีทีไอ ทาวเวอร์ ชั้น 26 ถนนรัชดาภิเษก แขวงคลองเตย เขตคลองเตยกรุงเทพมหานคร 1011002-119-5000[email protected]
Link to FacebookLink to TwitterLink to InstagramLink to Youtube

เพื่อประสบการณ์ใช้งานที่ดีขึ้น

Link to AppStoreLink to Google Play StoreLink to Huawei store
© 2566 บริษัท จูอาโล่ มาร์เก็ตเพลส จำกัด