ห้องนอนเด็ก ฟังก์ชันจำเป็นของครอบครัวที่อยากมีลูก

ห้องนอนเด็ก ฟังก์ชันจำเป็นของครอบครัวที่อยากมีลูก

ทราบหรือไม่?

“ห้องนอนเด็ก” ถือเป็นฟังก์ชันจำเป็นสำหรับลูกหลาน และครอบครัวที่วางแผนจะมีลูก เพราะเป็นจุดเริ่มต้นสำคัญของการเจริญเติบโต พัฒนาการด้านบุคคลิกภาพ และความรับผิดชอบของเด็กๆ 

ในต่างประเทศจะมีการตระเตรียมห้องนอนเด็กไว้ในบ้านหรืออพาร์ทเม้นท์ตั้งแต่คู่รักวางแผนว่าจะมีลูก เนื่องจากส่วนใหญ่จะแยกห้องนอนให้ลูกตั้งแต่อายุ 6 เดือนขึ้นไป โดยอาจนอนคนเดียวหรือนอนรวมกับพี่ๆ น้องๆ ก็ได้ จนกระทั่งอายุครบ 10 ปี ก็จะมีการแยกห้องนอนห้องน้ำเป็นสัดส่วนอีกครั้งในกรณีที่พี่น้องต่างเพศกัน 

ส่วนวัฒนธรรมการเลี้ยงลูกของพ่อแม่คนไทยมักชอบนอนรวมกับลูกๆ เพื่อความอุ่นใจ จึงไม่ค่อยเห็นความสำคัญของการแยกห้องนอนเด็กตั้งแต่เนิ่นๆ ทั้งที่จริงๆ แล้วมีการศึกษาพบว่า การแยกห้องนอนเด็กตั้งแต่ช่วงวัยที่เหมาะสมนั้นเป็นประโยชน์ต่อพัฒนาการของเด็กและสุขภาพของพ่อแม่มากกว่า เช่น ความสามารถในการควบคุมสิ่งกระตุ้นต่างๆ อย่างแสง เสียง ที่มีผลทำให้ลูกตื่นง่ายได้ดีกว่าการนอนรวมกับพ่อแม่ และการที่พ่อแม่มีเวลาเป็นส่วนตัวมากขึ้น เป็นต้น

ความสำคัญของห้องนอนเด็ก  

การแยกฟังก์ชันในบ้านให้มีห้องนอนเด็กอย่างเป็นสัดส่วนนั้น ก็เหมือนกับการที่ผู้ใหญ่อย่างเราต้องการมีห้องนอนส่วนตัวนั่นเอง เพราะโดยธรรมชาติแล้วมนุษย์ต่างต้องการพื้นที่ของตนเองหรือมีอาณาเขตที่ให้ความรู้สึกปลอดภัย อบอุ่นใจ หรือสามารถทำอะไรก็ได้ที่อยากทำโดยอิสระ

แต่สำหรับห้องนอนเด็กยังมีความสำคัญมากกว่านั้น นั่นคือเป็นพื้นที่ที่จะส่งเสริมพัฒนาการด้านต่างๆ อาทิ 

รู้จักตนเองมากขึ้น 

เมื่อเด็กอยู่คนเดียวภายในห้อง พวกเขาจะเริ่มสำรวจความต้องการของตัวเองว่าชอบหรือไม่ชอบอะไร รู้จักแยกแยะได้ว่านี่คือโซนส่วนตัวหรือส่วนรวม และมีการตัดสินใจทำหรือเลือกในแบบที่ตัวเองชื่นชอบมากขึ้น ตัวอย่างที่เห็นได้บ่อยๆ ก็เช่นการเลือกเสื้อผ้าเครื่องแต่งกายเอง หรือการขอให้ซื้อผ้าคลุมเตียงที่มีลวดลายการ์ตูนเรื่องโปรด เป็นต้น

รู้จักรับผิดชอบ

การมอบสิทธิ์ความเป็นเจ้าของให้เด็กๆ ได้ดูแลจัดระเบียบข้าวของเครื่องใช้ ทำความสะอาดเล็กๆ น้อยๆ ภายในห้องนอนยังเป็นการสอนเรื่องความรับผิดชอบไปในตัว ซึ่งพบว่าแนวโน้มเด็กเหล่านี้จะมีวุฒิภาวะที่โตเร็วกว่ากลุ่มเด็กที่ไม่มีห้องนอนเป็นของตัวเอง อีกทั้งยังสามารถต่อยอดจนเป็นนิสัยที่ทำให้พ่อแม่เบาใจได้ว่าลูกๆ จะรับผิดชอบชีวิตตัวเองได้เช่นกัน

สร้างบุคลิกภาพในแบบฉบับของตัวเอง

เด็กจะมีพื้นที่มากพอที่จะพัฒนาบุคลิกภาพในแบบฉบับของตัวเอง เพราะอิสรภาพของการอยู่คนเดียวทำให้เขาแสดงออกได้เต็มที่โดยไม่ต้องกลัวกับคำวิพากษ์วิจารณ์หรือกฏเกณฑ์จากพ่อแม่ ซึ่งเป็นการบิวท์ความเชื่อมั่นในตัวเอง (Self-esteem) ของเด็กๆ ให้เกิดขึ้นอีกทางหนึ่ง 

ส่งเสริมสุขภาพกายและใจ

การมีห้องนอนเด็กแยกต่างหาก ยังช่วยส่งเสริมด้านสุขภาพร่างกายและจิตใจ โดยเฉพาะเรื่องคุณภาพการนอนที่สามารถโฟกัสได้ดีกว่าการปล่อยให้เด็กนอนร่วมกับพ่อแม่หรือกับพี่น้อง 

เนื่องจากเด็กที่นอนหลับได้อย่างเพียงพอและมีคุณภาพนั้น จะทำให้ฮอร์โมนการเจริญเติบโต (Growth Hormone) ทำงานเต็มที่ ซึ่งไม่เพียงส่งผลต่อการเติบโตของร่างกายในทางกายภาพเท่านั้น แต่ยังส่งเสริมพัฒนาการด้านการเรียนรู้ของเด็กอย่างมากด้วย 

มีผลการวิจัยชิ้นหนึ่งแสดงให้เห็นว่าเด็กที่ได้นอนหลังจากการเรียน จะสามารถทำแบบทดสอบได้ดีกว่ากลุ่มที่ยังไม่ได้นอนอย่างชัดเจน นอกจากนี้เด็กที่นอนอย่างเพียงพอยังสามารถลดปัญหาพฤติกรรม เช่น ซน ก้าวร้าว ขี้หงุดหงิด ฯลฯ ได้อีกด้วย

เพิ่มศักยภาพการเรียนรู้ 

สำหรับเด็กวัยเรียน ห้องนอนส่วนตัวยังสามารถใช้เป็นพื้นที่เรียนรู้ทักษะต่างๆ ยิ่งในปัจจุบันที่มีการเรียนออนไลน์มากขึ้น การจัดฟังก์ชันห้องนอนเด็กให้มีส่วนของโต๊ะเรียนหนังสือด้วยก็จะสร้างความเป็นสัดส่วน ช่วยให้เด็กมีสมาธิ ไม่ถูกรบกวนจากสิ่งแวดล้อมหรือสิ่งเร้าในบ้านที่อยู่ในรูปแบบต่างๆ 

มุมเรียนรู้ที่ว่านี้ยังอาจดึงศักยภาพที่ซ่อนเร้นหรืออัจฉริยภาพของเด็กออกมาได้ หากผู้ปกครองเปิดโอกาสให้เด็กๆ ได้ทดลองหรือค้นหาอะไรใหม่ๆ จากงานอดิเรกหรือกิจกรรมสันทนาการอย่างเหมาะสม

ข้อพิจารณาเพิ่มเติมเมื่อต้องเตรียมห้องนอนเด็ก

จากข้อมูลข้างต้นคงจะพอเห็นแล้วว่า การแยกห้องนอนเด็กออกมาเป็นหนึ่งในฟังก์ชันจำเป็นของบ้านนั้นมีประโยชน์ต่อเจ้าตัวน้อยมากแค่ไหน แต่ถึงอย่างนั้นก็ยังมี 3 ข้อควรคำนึงในการจัดเตรียมห้องให้เหมาะสมกับบุตรหลาน ดังนี้ 

ห้องนอนสำหรับเด็กแต่ละคน หรือเป็นห้องรวมที่พี่น้องอยู่ร่วมกัน 

ในกรณีที่มีลูกคนเดียว การจัดห้องนอนเด็กจะไม่ค่อยมีปัญหามากนัก เพราะเราสามารถเตรียมพื้นที่ให้เขาใช้ชีวิตได้ตั้งแต่เด็กเล็กจนเข้าสู่วัยรุ่นในคราวเดียว แต่จะมีการปรับเปลี่ยนเฟอร์นิเจอร์เป็นครั้งคราวเพื่อให้เหมาะสมกับช่วงวัยเท่านั้น 

แต่ในครอบครัวที่มีลูกหลายคน อาจต้องดูความเหมาะสมของพื้นที่ภายในบ้านว่าเพียงพอสำหรับการแยกห้องให้กับลูกๆ ทุกคนหรือไม่ หากไม่เพียงพอการแชร์ห้องร่วมกันระหว่างพี่ๆ น้องๆ ก็เป็นทางเลือกที่ดี เพราะเด็กๆ จะได้ซึบซับทักษะชีวิตของกันและกัน ได้พัฒนาความผูกพัน และเรียนรู้ที่จะประนีประนอมหรือแก้ไขความขัดแย้ง ซึ่งจะช่วยเตรียมพวกเขาให้พร้อมสำหรับชีวิตในวัยผู้ใหญ่

การแยกห้องพี่น้องต่างเพศในเวลาที่เหมาะสม  

การแชร์ห้องนอนร่วมกันของพี่น้องทั้งชายและหญิงจะสามารถทำได้แค่ช่วงหนึ่งเท่านั้น เมื่อถึงเวลาที่เด็กๆ โตขึ้นและเริ่มรู้ความต่างของเพศสภาพ ก็จะเป็นอีกหนึ่งช่วงเวลาที่ผู้ปกครองต้องคิดจัดสรรพื้นที่ในบ้านใหม่ เพื่อให้เด็กที่กำลังจะเข้าสู่วัยรุ่นมีห้องของเป็นตัวเอง เนื่องจากกลุ่มเด็กโตเหล่านี้จะใช้เวลาเพียงลำพังเพื่อจัดการกับร่างกายที่เปลี่ยนแปลงไปและอารมณ์ใหม่ๆ ที่ซับซ้อนขึ้น

รวมไปถึงกรณีที่พี่น้องเพศเดียวกันอยู่ห้องเดียวกัน เมื่อถึงเวลาที่คนโตกว่าเข้าสู่วัยรุ่น โดยธรรมชาติแล้วพวกเขาเองจะเรียกร้องความเป็นส่วนตัว ซึ่งหากเป็นไปได้ผู้ปกครองควรคิดขยับขยายที่อยู่อาศัยใหม่ เพื่อให้สเปซที่เหมาะสมกับการใช้ชีวิตของสมาชิกทุกคนในครอบครัว 

ออกแบบห้องเด็กให้เหมาะสมกับวัย

นอกจากจัดสรรพื้นที่ให้เด็กๆ มีห้องนอนของตัวเองแล้ว ข้อพิจารณาสุดท้ายที่ควรคำนึงคือการออกแบบตกแต่งห้องให้น่าสนใจ เหมาะสมกับช่วงวัยและจำนวนสมาชิกในห้อง เช่น หากมีพี่น้องสองคนขึ้นไปอยู่ร่วมกันในห้องเดียว ห้องนั้นควรมีพื้นที่กว้างขวางเพื่อรองรับการใช้ชีวิตของเด็กแต่ละคน มีการแยกฟังก์ชันใช้สอยระหว่างส่วนพักผ่อน พื้นที่เก็บของ และพื้นที่ทำกิจกรรม  

นอกจากนี้ยังควรเลือกเฟอร์นิเจอร์โดยคำนึงถึงความปลอดภัย เช่น ใช้เฟอร์นิเจอร์ที่มีดีไซน์โค้งมน หลีกเลี่ยงวัสดุแตกหักง่ายหรือมีความแหลมคม รวมถึงเปิดโอกาสให้เด็กๆ ได้เลือกของตกแต่งห้องด้วยตัวเอง เพื่อเป็นการเสริมสร้างจินตนาการและเซ้นส์ความเป็นเจ้าของ อีกทั้งยังสามารถเลือกใช้ 5 เทคนิคแต่งห้องเสริมพัฒนาการให้ลูกน้อย เพื่อสร้างอาณาจักรเล็กๆ ให้สมบูรณ์แบบยิ่งขึ้นก็ได้   

สรุปห้องนอนเด็ก ฟังก์ชันที่ไม่ควรมองข้ามสำหรับบ้านที่มีเด็กๆ 

แม้เป็นเด็กตัวน้อยๆ แต่พวกเขาก็รอวันที่จะเติบโตเป็นผู้ใหญ่ที่มีคุณภาพ การตระเตรียมพื้นที่ส่วนตัวอย่างห้องนอนเด็กไว้ล่วงหน้าภายในที่อยู่อาศัย ไม่ว่าจะในรูปแบบของบ้าน คอนโด หรือทาวน์เฮ้าส์จึงเปรียบเสมือนการปูพื้นฐานชีวิตให้เด็กๆ ได้เริ่มต้นเรียนรู้ทักษะชีวิตในแง่มุมต่างๆ ทั้งการรู้จักตนเอง ความรับผิดชอบ ตลอดถึงการเสริมสร้างพัฒนาการทางร่างกายและจิตใจ 

ยิ่งเมื่อบวกเข้ากับการออกแบบห้องนอนเด็กที่ดี โดยคำนึงถึงการใช้งานในแต่ละช่วงวัย ควบคู่ไปกับการเลือกสรรของตกแต่งที่ปลอดภัยและตรงกับความต้องการของเด็กๆ ก็จะยิ่งเติมเต็มให้ห้องนอนกลายเป็นพื้นที่แห่งความสุข ที่ทำให้เด็กๆ ใช้ชีวิตอย่างมั่นใจและเป็นอิสระในแบบที่พวกเขาเป็น

สอบถามข้อมูลอื่นๆ หรือสิทธิพิเศษเพิ่มเติม

กรุณาสแกนคิวอาร์โค้ด หรือเพิ่มเพื่อนด้วยไอดีไลน์ @kaideeofficial