โทรศัพท์มือถือ iPhone 7

ทำไมต้อง iphone 7

iphone 7 วางจำหน่ายครั้งแรกในปี พ.ศ. 2559 ถึงตอนนี้ก็เป็นเวลาเกือบ 5 ปีแล้ว ที่มือถือรุ่นนี้โลดแล่นในวงการสมาร์ตโฟน ด้วยความเก๋าและ “ความทน” ของโทรศัพท์ซีรีส์นี้ ทำให้ปัจจุบันผู้ใช้งานไอโฟนจำนวนมากยังคงใช้ iphone 7 กันอยู่ เรียกได้ว่าเป็น “รุ่นที่คนใช้มากที่สุดของ iphone” เลยทีเดียว (อ้างอิงจากตัวเลขสถิติกลุ่มผู้ใช้งาน iphone ในปี 2019-2020)

ความที่วางจำหน่ายมาหลายปีแล้ว สเปคและเทคโนโลยีต่างๆ ของ iphone 7 คงเทียบกับมือถือรุ่นปัจจุบันยาก ประสิทธิภาพและระบบต่างๆ คงไม่เทียบเท่า แต่เรื่องราคาก็ยังเป็นปัจจัยหลัก ที่ทำให้คนยังสนใจสมาร์ตโฟนรุ่นนี้อย่างต่อเนื่อง ถึงแม้ความเร็วแรงอาจจะเป็นรอง แต่การใช้งานโดยรวมของ iphone 7 นั้น ปฏิเสธไม่ได้ว่ายังทำได้น่าพอใจ

Tips : ปัจจุบันทาง Apple ไม่มี iphone 7 วางจำหน่ายในชอปแล้ว ส่วนใหญ่มีขายตามพวกร้าน Rasale หรือมือสองเป็นส่วนใหญ่ สีและความจุ iphone 7

ว่าด้วยข้อมูลพื้นฐานทั่วไปของ iphone 7 อย่าง ความจุ สีและน้ำหนักตัวเครื่อง จากข้อมูลด้านล่างจะเห็นได้ว่า สีของ iphone 7 ค่อนข้างหลากหลาย กว่าสีของ iphone ในยุคปัจจุบัน ยิ่งถ้าใครเน้นใช้งานทั่วไป ไม่ได้มีข้อมูลหรือต้องการความจุงหลัก TB ตัวความจุสูงสุด 256GB ก็เพียงพอกับการใช้งานได้สบายๆ

ความจุ iphone 7: 32GB, 128GB และ 256GB สีของ iphone 7: โรสโกลด์, ทอง, เงิน, ดำ, ดำเจ็ทแบล็ค และแดง (สีแดงมีจำหน่ายเฉพาะรุ่นความจุ 128 GB และ 256 GB) น้ำหนักตัวเครื่อง iphone 7: 138 กรัม iphone 7 กันน้ำ : ที่ระดับ IP67 (ความลึกไม่เกิน 1 เมตร ภายในระยะเวลาสูงสุด 30 นาที)

สิ่งที่น่าสนใจใน iphone 7

มาถึงเรื่องที่หลายคนให้ความสนใจว่า iphone 7 รุ่นนี้มีสเปคหรือระบบการทำงานโดยรวมเป็นอย่างไร มีอะไรน่าสนใจมากน้อยแค่ไหน ถึงตอนนี้แล้วจะยังคงเป็นสมาร์ตโฟนที่ใช้งานได้ดีอยู่หรือไม่ เรารวบรวมข้อมูลเฉพาะของแต่ละด้านมาไว้ให้พิจารณาเรียบร้อยแล้วด้านล่าง iphone 7 กับชิปประมวลผล A10 Fusion

ยุคหนึ่งสมัยหนึ่งต้องยอมรับว่า iphone 7 เคยครองตำแหน่งสมาร์ตโฟนที่ยอดเยี่ยมที่สุดในโลก เรียกได้ว่าเป็นมือถือที่ล้ำหน้าที่สุดเท่าที่เคยมีมา โดดเด่นด้วยพลังของ CPU ชิป A10 Fusion อันขึ้นชื่อเรื่อประสิทธิภาพยอดเยี่ยม ซึ่งทางแอปเปิลเคลมว่า ทำงานได้เร็วกว่า iphone 6 มากถึง 2 เท่า

ที่สำคัญชิปของ iphone 7 รุ่นนี้ ยังเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานด้านภาพและงานกราฟิกกว่า iphone 6 ถึง 3 เท่า แถมยังใช้พลังงานน้อยลงครึ่งต่อครึ่ง ในขณะเดียวกันยังสามารถใช้งานได้นานขึ้นต่อการชาร์จหนึ่งครั้ง นับเป็นแบตเตอรี่ที่ใช้งานได้นานที่สุดเท่าที่ iphone เคยมี (ในสมัยนั้น)

iphone 7 กับกล้องที่ยอดเยี่ยม

• iphone 7 กล้องความละเอียด 12MP และรูรับแสงขนาด ƒ/1.8
• iphone 7 บันทึกวิดีโอสูงสุดระดับ 4K ที่ 30 fps
• iphone 7 ซูมดิจิตอลได้สูงสุด 5 เท่า
• ระบบป้องกันภาพสั่นไหวแบบออปติคอล และแฟลช True Tone แบบ LED สี่ดวง
• พาโนรามา (สูงสุด 63MP)
• iphone 7 มีระบบออโต้โฟกัสพร้อม Focus Pixels
• iphone 7 มาพร้อมคุณสมบัติ Live Photos พร้อมระบบป้องกันภาพสั่นไหว
• HDR สำหรับภาพถ่าย
• ระบบป้องกันภาพสั่นไหวอัตโนมัติ
• iphone 7 มีโหมดภาพถ่ายต่อเนื่อง โหมดตั้งเวลาถ่ายภาพ และแนบข้อมูลพิกัดตำแหน่งในภาพถ่าย
• รูปแบบไฟล์ภาพที่ iphone 7 บันทึก: HEIF และ JPEG

ว่าด้วยเรื่องกล้องของ iphone 7 ที่ยืดหยัดด้วยกล้องหลังเพียงหนึ่งตัว ความละเอียด 12MP เป็นสมาร์ตโฟนที่ยังไม่มีลูกเล่นของกล้องมากมายนัก ใครที่เป็นสายถ่ายรูปอาจจะไม่ถูกใจสิ่งนี้ แต่ถ้าเน้นถ่ายทั่วๆ ไป ไม่ค่อยใช้โหมดเสริมอย่าง Night Mode, Portrait, Wide หรือ Tele คุณสมบัติกล้องโดยรวมของมือถือรุ่นนี้ก็ยังถือว่าครอบคลุม

นอกจากนี้ยังถ่ายวีดีโอได้คมชัดสูงสุดถึง 4K เรียกได้ว่า iphone 7 เป็นมือถือที่ครบเครื่องทั้งถ่ายรูปและถ่ายคลิป แม้ลูกเล่นหรือโหมดต่างๆ อาจจะไม่ได้แพรวพราวเหมือน iphone ปัจจุบัน แต่ถ้างบมีจำกัด การใช้งานไม่ได้หลากหลายนัก iphone 7 ก็ยังคงเป็นมือถือที่คุ้มค่าอยู่เดียว

iphone 7 ใช้หน้าจอ Retina HD

iphone 7 ใช้จอภาพ Retina HD แบบ LCD ขนาด 5.5 นิ้ว (แนวทแยง) จอภาพ iphone 7 ความละเอียด 1920 x 1080 พิกเซลที่ 401 ppi และอัตราส่วนคอนทราสต์ 1300:1 (ทั่วไป) iphone 7 ให้ความสว่างจอภาพสูงสุด 625 cd/m2 (ทั่วไป) เคลือบสารกันรอยนิ้วมือ iphone 7 มีคุณสมบัติ "การซูมหน้าจอ" และคุณสมบัติ "การดึงจอลงเพื่อแตะ”

มาที่หน้าจอของ iphone 7 กันบ้าง อย่างแรกคือเรื่องจอภาพ Retina HD หรือว่าง่ายๆ ก็คือจอ LCD ปกติ แน่นอนว่าถ้าคุณเอามาเปรียบเทียบกับจอ OLED ในไอโฟนรุ่นใหม่ๆ อย่างไรมือถือรุ่นนี้ก็คงสู้ไม่ได้ โดยสิ่งที่แตกต่างอย่างชัดเจน คงหนีไม่พ้นเรื่องความเข้มสีที่ iphone 7 ค่อนข้างดรอปกว่าพอสมควร ส่วนประสิทธิภาพความเร็วแรงของหน้าจอ iphone 7 เวลาเล่นเกมกราฟิกหนักๆ โดยรวมยังคงทำได้ดี ภาพสวยงามยังไม่กระตุกมากนัก อาจจะมีข้อเสียตรงที่ตัวเครื่องร้อนง่ายและร้อนเร็ว รวมถึงจำนวนแบตเตอรีลดลงค่อนข้างไว